จีนเร่งสร้าง “ศูนย์แยกโรค” เนื้อที่ 200 ไร่ รับมือโควิดระลอกใหม่

15 ม.ค. 2564 | 00:29 น.

จีนเร่งเดินหน้าโครงการก่อสร้าง “ศูนย์แยกโรค” หรือศูนย์สังเกตการณ์ทางการแพทย์แบบรวมศูนย์ ในมณฑลหูเป่ย เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ในจีน

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การก่อสร้างศูนย์สังเกตการณ์ทางการแพทย์แบบรวมศูนย์ หรือที่รู้จักกันในนาม “ศูนย์แยกโรค” ใน นครสือเจียจวง เมืองเอกของ มณฑลเหอเป่ย ทางตอนเหนือของประเทศจีน ได้เริ่มขึ้นแล้วช่วงกลางสัปดาห์นี้ (13 ม.ค.) หลังตรวจพบการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) แบบกลุ่มก้อนอีกครั้งในจีนเมื่อเร็ว ๆนี้

 

นายหม่า ซ่าวไห่ ผู้จัดการโครงการจากกลุ่มสำนักการรถไฟแห่งประเทศจีนที่ 14 (China Railway 14th Bureau Group) เปิดเผยว่า มีการระดมคนงานมากกว่า 100 คน พร้อมด้วยเครื่องจักรหลายสิบประเภทเข้าร่วมการก่อสร้างครั้งนี้ หลังจากรับคำสั่งให้ดำเนินโครงการดังกล่าวเมื่อเวลา 11.00 น. ของวันพุธ (13 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น

 

ศูนย์แยกโรค แห่งใหม่นี้จะครอบคลุมพื้นที่ราว 200ไร่ ตั้งอยู่ใกล้หมู่บ้านในอำเภอเจิ้งติ้ง โดยสามบริษัทรับเหมาก่อสร้างเชิงบูรณาการในเมืองถังซานของเหอเป่ย เป็นผู้รับผิดชอบการก่อสร้างห้องผู้ป่วยชั่วคราวของศูนย์ฯ จำนวน 3,000 ห้องซึ่งแต่ละห้องมีพื้นที่ 18 ตารางเมตร

(แฟ้มภาพซินหัว : สถานที่ก่อสร้างศูนย์แยกโรคในนครสือเจียจวง)

ทั้งนี้ เหอเป่ยมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ติดเชื้อในท้องถิ่น 395 ราย และผู้ป่วยที่มาจากต่างประเทศ 2 ราย ที่กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเมื่อนับถึงสิ้นวันอังคาร (12 ม.ค.) และยังเหลือผู้ปวยติดเชื้อในท้องถิ่นที่ไม่แสดงอาการ 215 ราย รวมทั้งผู้ป่วยจากต่างประเทศที่ไม่แสดงอาการอีก 5 ราย อยู่ภายใต้การสังเกตการณ์ทางการแพทย์

 

นครสือเจียจวงและเมืองสิงไถ ซึ่งตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เป็นจำนวนมาก ได้เริ่มดำเนินการทดสอบกรดนิวคลีอิก (การตรวจหาเชื้อโควิด-19) ทั่วเมืองเป็นรอบที่สองแล้ว หลังมีการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 ในพื้นที่

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชาวจีนเกือบ 1 ล้านคนได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 แล้ว

ผลการทดสอบวัคซีนของ บ.ซิโนแวค ทำให้ประเทศผู้ซื้อในอาเซียนต้องคิดหนัก

สามบิ๊กอาเซียน ไทย-อินโดฯ-ฟิลิปปินส์ เตรียมฉีดวัคซีน “ซิโนแวค” ในระดับมวลชนเร็ว ๆนี้ 

จีนเข้าร่วมโครงการเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 อย่างเท่าเทียม

ยอดโควิด 15 ม.ค.64 ทั่วโลกผู้ป่วยเพิ่ม 6.98 แสนราย รวม 93.45 ล้านราย