สรุป ขั้นตอนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้เข้าใจแบบง่ายๆ เช็กได้ที่นี่

03 พ.ย. 2563 | 08:15 น.

สถานทูตสหรัฐและสถานกงสุลในประเทศไทย สรุปขั้นตอนการ "เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ" ที่มีการเปิดลงคะแนนเสียงในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 ให้คนไทยเข้าใจแบบง่ายๆ

สถานทูตสหรัฐและสถานกงสุลในประเทศไทย จัดทำข้อมูลข้อมูลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประจำปี 2563 ผ่านเว็บไซต์ สถานทูตสหรัฐและสถานกงสุลในประเทศไทย เพื่ออธิบายให้คนไทยเข้าใจวิธีการที่คนอเมริกันเลือกประธานาธิบดี ที่จะมีการลงคะแนนเสียงในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 เพื่อเลือกประธานาธิบดี ตลอดจนสมาชิกสภาคองเกรส 469 คน และเจ้าพนักงานของรัฐอีกหลายพันคนทั่วประเทศ ซึ่งรวมไปถึงผู้ว่าการรัฐ ผู้พิพากษา และผู้อำนวยการเขตการศึกษา

 

สถานทูตสหรัฐและสถานกงสุลในประเทศไทย อธิบายว่า สหรัฐฯ มีรูปแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบตัวแทนนับตั้งแต่การรับรองรัฐธรรมนูญในปี 2331 แม้ว่ากระบวนการการเลือกตั้งซึ่งมีความซับซ้อนนี้จะชวนสับสนในบางครั้ง แต่ก็ได้รับการพัฒนามาเพื่อให้มั่นใจว่าประชากรอเมริกันที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปทั้งชายและหญิงจะมีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งโดยเท่าเทียมกันทุกคน การเลือกตั้งอย่างเสรีและเป็นธรรมคือหัวใจของประชาธิปไตยไม่ว่าแบบใดก็ตาม เมื่อผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตัวแทน ก็นับว่าได้เลือกผู้นำที่จะมากำหนดทิศทางอนาคตสังคมที่พวกเขาอาศัยอยู่ การเลือกตั้งจึงเป็นการให้อำนาจแก่ปุถุชน เพื่อที่พวกเขาจะมีสิทธิ์มีเสียงในนโยบายรัฐในวันข้างหน้า ซึ่งก็หมายถึงการมีสิทธิ์มีเสียงในอนาคตของตนเอง

 

สถานทูตสหรัฐและสถานกงสุลในประเทศไทย ได้อธิบายถึงหนทางสู่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2563 ที่อาจดูน่าสับสน ด้วยการนำเสนอข้อมูลง่าย ๆ ที่จะช่วยให้เข้าใจกระบวนการการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ รวมถึงปฏิทินกิจกรรมการเลือกตั้งต่าง ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น ด้วยการสรุปขั้นตอนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้เข้าใจแบบง่ายๆ ดังนี้

 

หนึ่งปีก่อนการเลือกตั้ง


ผู้สมัครรับเลือกตั้งจากสองพรรคการเมืองใหญ่คือ พรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันจะเริ่มกิจกรรมรณรงค์หาเสียงโดยจะตั้งคณะทำ งานและเริ่ม “ออกเดินทางปราศรัย” ทั่วประเทศเพื่อหาเสียงสนับสนุนและระดมทุนสำหรับการรณรงค์หาเสียง

 

ในช่วงแรกของการรณรงค์หาเสียง


ผู้สมัครรับเลือกตั้งจากทั้งสองพรรคจะปราศรัยโต้วาทีถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ ในระหว่างการโต้วาที ผู้สมัครรับเลือกตั้งแต่ละคนจะต้องตอบคำถามยากๆ เกี่ยวกับนโยบายของพวกเขา รวมทั้งต้องแก้ต่างจุดยืนของตนในประเด็นและนโยบายต่างๆ

หลังจากนี้ก็จะเริ่มขั้นตอนการเลือกตั้งประธานาธิบดี


ขั้นตอนการเลือกตั้งสหรัฐฯ นั้นค่อนข้างซับซ้อน สถานทูตฯ มาช่วยไขทุกข้อข้องใจเกี่ยวกับคณะผู้เลือกตั้งประธานาธิบดี การเลือกตั้งขั้นต้นและการประชุมคอคัส รวมถึงการประชุมใหญ่ของพรรคการเมือง 

 

ขั้นที่ 1 การเลือกตั้งขั้นต้นและการประชุมคอคัส


คนจำนวนไม่น้อยอยากเป็นประธานาธิบดี และแต่ละคนก็มีแนวคิดเกี่ยวกับวิธีการทำงานของรัฐบาลที่แตกต่างกัน กลุ่มคนที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันจะสังกัดพรรคการเมืองเดียวกัน เป็นที่มาของการเลือกตั้งขั้นต้นและการประชุมคอคัส ผู้สมัครรับเลือกตั้งจากแต่ละพรรคเดินสายหาเสียงทั่วประเทศ เพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกพรรคของตน

 

การประชุมขั้นต้นและการประชุมคอคัสซึ่งเป็น การลงคะแนนเสียงที่สำคัญเริ่มต้นเดือนกุมภาพันธ์ การประชุมนี้นำไปสู่การเลือกตัวแทนซึ่งจะไปเข้าร่วมการประชุมใหญ่ระดับ ประเทศของพรรค รัฐที่ได้รับความสนใจมากคือ ไอโอวา นิวแฮมป์เชียร์ เนวาดาและเซาท์แคโรไลนา ซึ่งผลการเลือกตัวแทนของรัฐเหล่านี้มักจะชี้ว่าใครจะได้รับเสนอชื่อเป็นผู้ สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี

 

ในการประชุมคอคัส

  • สมาชิกพรรคเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ดีที่สุดจากการอภิปรายและออกคะแนนเสียงหลายครั้ง

ในการเลือกตั้งขั้นต้น

  • สมาชิกพรรคออกเสียงเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ดีที่สุดเพื่อเป็นตัวแทนพรรคในการเลือกตั้งทั่วไป
  •  

ขั้นที่ 2 การประชุมใหญ่พรรคการเมือง


แต่ละพรรคการเมืองจัดการประชุมใหญ่เพื่อเลือกตัวแทนผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเพียงคนเดียว ตัวแทนระดับรัฐจากการประชุมขั้นต้นและการประชุมคอคัสที่ได้รับเลือกจาก ประชาชนจะให้การ “รับรอง” ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีที่พวกเขาชื่นชอบ และเมื่อการประชุมใหญ่สิ้นสุดลง พรรคการเมืองก็จะออกประกาศอย่างเป็นทางการว่า พรรคได้เสนอชื่อบุคคลใดเป็นตัวแทนของพรรคลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ระหว่างการประชุมนั้น ตัวแทนผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจะเลือกคู่หูชิงตำแหน่ง (ผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี) ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคต่าง ๆ ลงพื้นที่เรียกคะแนนเสียงจากประชาชนทั่วประเทศ

ขั้นที่ 3 การเลือกตั้งทั่วไป


ประชาชนทุกรัฐทั่วประเทศลงคะแนนเสียงเลือกผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีเพียงเสียงเดียว เมื่อคนอเมริกันไปคูหาเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน พวกเขาจะเลือกผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีพร้อมผู้สมัครดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีคนที่ตนชื่นชอบ

 

แต่จริง ๆ แล้วพวกเขากำลังลงคะแนนเสียงให้บุคคลกลุ่มหนึ่งที่เรียกว่า “ผู้เลือกตั้งประธานาธิบดี” หากผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใดได้รับคะแนนเสียงส่วนใหญ่จากประชาชนในรัฐ (ยกเว้นรัฐเมนและเนแบรสกา) ผู้สมัครคนนั้นจะได้คะแนนผู้เลือกตั้ง (electoral vote) ทั้งหมดของรัฐนั้นๆ

 

ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่ได้รับคะแนนเสียงจากผู้เลือกตั้งมากที่สุดจะได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี

 

ขั้นที่ 4 คณะผู้เลือกตั้งประธานาธิบดี


คณะผู้เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นกระบวนการที่ “ผู้เลือกตั้ง” หรือตัวแทนจากแต่ละรัฐซึ่งจะมีจำนวนเป็นสัดส่วนกับจำนวนประชากรของรัฐลงคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดี

 

แต่ละรัฐมีจำนวนผู้เลือกตั้งประธานาธิบดีเท่ากับจำนวนตัวแทนของรัฐในสภาคองเกรส ผู้เลือกตั้งทั้งหมดมีจำนวน 538 คน ซึ่งได้รับเลือกตามนโยบายของแต่ละรัฐ ผู้เลือกตั้งประธานาธิบดีแต่ละคนจะลงคะแนนเสียง 1 เสียงหลังการเลือกตั้งทั่วไป และผู้สมัครที่ได้รับคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่ง (270 เสียง) จะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี

 

ประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีที่ได้รับการเลือกตั้งสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม

 

ที่มา : สรุปขั้นตอนการเลือกตั้งประธานาธิบดี