ครม.ถอนสภาพที่ดินสาธารณะ พบ ยกที่ป่าช้า สร้างบ้านพักผู้พิพากษา

23 พ.ย. 2563 | 09:54 น.

ครม.เห็นชอบ ถอนสภาพที่ดินสาธารณะ 5 แปลง พบ ยกที่ป่าช้า ให้ สร้างบ้านพักผู้พิพากษา-อาคารชุดพักอาศัยของ ขรก.ศาลยุติธรรม

23 พฤศจิกายน 2563 นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมครม.อนุมัติรับหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เพื่อให้มีการถอนสภาพที่ดินสาธารณประโยชน์ทั้งสิ้น 5 แปลง ได้แก่

 

1.แปลงสระน้ำสาธารณประโยชน์ ในพื้นที่ ต.กุดขอนแก่น อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น บางส่วนเนื้อที่ 4 ไร่ 1 งาน เพื่อมอบให้แก่กระทรวงสาธารณสุข (ศธ.) ใช้เป็นที่ตั้งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกุดขอนแก่น

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ครม.เคาะแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจรอบ 2 วงเงิน 1.5 แสนล้าน

ไฟเขียวร่วมลงนามญี่ปุ่น พัฒนาพื้นที่บางซื่อ เป็น เมืองอัจฉริยะ

ครม.ไฟเขียว ตั้ง สถาบันวิจัยฯระบบราง เป็น องค์การมหาชน

 

2. แปลงหนองสองห้องสาธารณะ ในพื้นที่ต.หนองสองห้อง อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น บางส่วนเนื้อที่ประมาณ 9 ไร่เพื่อมอบให้เทศบาลตำบลหนองสองห้อง ใช้ประโยชน์ด้านการจัดการศึกษาซึ่งเป็นที่ตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลหนองสองห้อง

 

3.แปลงหนองกระรอกสาธารณประโยชน์ ในพื้นที่ ต.แวงใหญ่ อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น อยู่ที่ประมาณ 10 ไร่ 1 งาน 83 ตารางวา เพื่อมอบให้เทศบาลตำบลแวงใหญ่ ใช้ประโยชน์ด้านการจัดการศึกษา ซึ่งเป็นที่ตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลแวงใหญ่ สนามกีฬาอาคารประกอบอื่นๆ

 

4.แปลงทุ่งสนามสาธารณประโยชน์ ในพื้นที่ ต.ยางสีสุราช อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม บางส่วนเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่เพื่อมอบให้ อบต. ยางสีสุราช ใช้เป็นที่ตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก

5.แปลงป่าช้าบ้านสระครก แปลง1 ในพื้นที่ ต.บัวใหญ่ อ.บัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา เนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ 82 ตารางวา เพื่อมอบให้ สำนักงานศาลยุติธรรม ใช้เป็นที่ตั้งบ้านพักผู้พิพากษาและอาคารชุดพักอาศัยของข้าราชการศาลยุติธรรม ซึ่งศาลยุติธรรมเห็นชอบด้วยกับการถอนสภาพที่ดินสาธารณประโยชน์เพื่อมอบหมายให้สำนักงานศาลยุติธรรม ใช้เป็นที่ตั้งบ้านพักผู้พิพากษาและอาคารชุดพักอาศัยของข้าราชการศาลยุติธรรมดังกล่าว

 

ทั้งนี้ สาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภทพลเมืองใช้ร่วมกันทั้ง 5 แปลงนี้ปัจจุบันราษฎรได้เลือกใช้ประโยชน์ร่วมกันแล้วซึ่งกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ไม่มีข้อขัดข้องทางผ่านเมืองและกรมการปกครองได้ตรวจสอบชื่อตำบลและอำเภอถูกต้องแล้ว