“สุดารัตน์” จี้ ฉีดวัคซีนวันละ5แสนโดส ปลายปีนี้ต้องเปิดประเทศ

12 มิ.ย. 2564 | 12:29 น.

“สุดารัตน์” จี้ฉีดวัคซีนวันละ5แสนโดส ปลายปีนี้ต้องเปิดประเทศ สัมมนาออนไลน์บน Clubhouse จัดโดยหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจและกรุงเทพธุรกิจ ในหัวข้อ CEO โซเซ “วัคซีนมาแบบนี้ ไทยจะเปิดประเทศอย่างไร”

การสัมมนาออนไลน์บน Clubhouse จัดโดยหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจและกรุงเทพธุรกิจ ในหัวข้อ CEO โซเซ “วัคซีนมาแบบนี้ ไทยจะเปิดประเทศอย่างไร” เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2564 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ประธานมูลนิธิไทยพึ่งไทย และประธานกรรมการผู้ก่อตั้งพรรคไทยสร้างไทย สะท้อน เศรษฐกิจและสุขภาพจิต ของคนไทยว่าได้รับผลกระทบค่อนข้างหนักหนา อย่างไรก็ตามเคยพูดเมื่อปลายปีที่ผ่านมา วัคซีนคือทางออกเดียว และ ณ ขณะนั้น แผนของรัฐบาลเริ่มฉีดในเดือนมิถุนายน จากแอสตร้าเซนเนก้าที่เคยระบุว่าวัคซีน เดินทางมาถึงประเทศไทย เพราะจากจำนวนเดิม เพียง 60 ล้านโดส ซื้อเพิ่มของซิโนแวค ตีเป็นเลข 7 ล้านโดส จะฉีดให้คนได้เพียง 30 กว่าล้านคน ที่นายกรัฐมนตรีเคยบอกว่าสั่งเพิ่ม ขณะนี้ยังไม่เห็นชัดเจน

จึงอยากคิดร่วมกัน ทั้งรัฐบาลและประชาชนว่า เห็นแล้วว่าทางรอดแสงสว่างปลายอุโมงค์อยู่ที่วัคซีน ดังนั้นเวลาเป็นเรื่องที่สำคัญทั้งต่อชีวิตคน และชีวิตเศรษฐกิจ ที่ต้องตั้งเป้า หลายประเทศทั่วโลก ประเทศเราได้ตั้งเป้าที่จะเปิดประเทศให้ได้ภายในสิ้นปีนี้ แผนของรัฐบาลตั้งแต่เดือนมิ.ย. จะให้ได้วัคซีน 70% ของประชาชน ซึ่งตามข้อเท็จจริงมองว่าไม่พอ คุณภาพของวัคซีน ที่ใช้ในประเทศด้อยกว่า ดังนั้น อาจต้องฉีดมากกว่า 70% มองว่าเป็นไปได้เพราะการสาธารณสุขมีขีดความสามารถ”

 

ขณะเดียวกันคุณหญิงสุดารัตน์ เคยให้สัมภาษณ์ไว้ที่เครือเนชั่นว่า ต้องฉีดวัคซีนให้ได้5 แสนโดสต่อวัน เรื่องนี้เป็นไปได้หรือไม่คำตอบคือ  เป็นไปได้คุณหญิงสุดารัตน์ย้ำว่า  ในฐานะที่เคยอยู่กระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่าเป็นไปได้ ปัญหาอยู่เพียงแต่ว่ารัฐบาลจะสั่งวัคซีนหรือจัดหาวัคซีนให้ได้ 35 ล้านโดสหรือไม่  ทั้ง ที่เคยบอกยืนยันว่าจัดหาได้แน่นอน แต่ท้ายที่สุดก็มีการชะลอออกไปหรือออกมาบอกไม่ได้ตามเป้าแต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าสิ้นเดือนนี้(มิ.ย.)  จะได้วัคซีนมาเพื่อให้ฉีด 5 แสนโดสหรือไม่ ซึ่งรัฐบาลต้องรักษาตัวเลข

โดยต้องตั้งเป้าว่าปลายปีนี้ ต้องเปิดประเทศ คืนชีวิตให้กับคนกลับมาใช้ชีวิตได้ ดังนั้นต้องเพียรพยายามทุ่มสัพพะกำลังหาให้ได้เดือนละ 15 ล้านโดส ได้วันละ 5 แสนโดส  ถึงเปิดได้ภายในปีนี้ให้ประชาชนได้ เปิดทำมาหากิน ประเด็นนี้เรื่องใหญ่ โดยภาพใหญ่ ต้องทำให้ได้ แต่ขณะนี้ ทั้งแอสตร้าเซนเนก้ากับซิโนแวค จะมีให้ฉีดอีกเพียงวันสองวันก็จะหมด แล้วจากนี้ ไม่เป็นไร ไม่จำเป็นต้องฉีดทุกวันก็ได้

 “รัฐบาลควรที่จะมีความชัดเจนว่า 15 ล้านโดสในเดือนนี้ จะได้เข้ามาล็อตของแอสตร้าเซนเนก้าวันที่ 16 จะได้ของซิโนแวคในวันที่ 5 ฉีดได้ถึงวันที่ 20 มิถุนายนสมมุติอย่างนี้ ทุกคนจะได้วางแผนชีวิตได้ ธุรกิจจะได้วางแผนเปิดได้”

 เมื่อถามถึง“ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์”คุณหญิง “ระบุว่าสนับสนุนเต็มที่แต่เมื่อสอบถามผู้ประกอบการ หลาย  แห่งต่างยืนยันว่า ไม่แน่ใจว่า เมื่อเปิดแล้วจะคุ้มหรือไม่ ปัญหาคือ 1. วันนี้เราจะพร้อมในการเปิด วันที่1 กรกฎาคมหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับ  วัคซีนต้องไปให้ได้ อีกแสนกว่าคน เกือบ 2 แสนที่ยังขาด  2 .ที่มีการเปลี่ยนจากการกักตัว 7 วัน เป็น 14 วันมองว่า จะเป็นตัวปัญหาเพราะเหมือนไม่มีการเปลี่ยนแปลง เพียงแต่เปลี่ยนที่กักตัวที่กรุงเทพมหานครไปกักตัวภูเก็ต เท่านั้น ขณะคนอยากใช้ชีวิตดังนั้นมันมีมาตรฐานของแต่ละประเทศที่มีผลตรวจภายใน 72 ชั่วโมงมีการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม นี้เป็นจุดที่จริง ๆ อยากให้ไตร่ตรอง อีกครั้งว่าต้องการที่จะให้เป็นโมเดลตัวอย่างให้มองไปข้างหน้า

ส่วนที่ 3 ที่เป็นอุปสรรคก็คือนักท่องเที่ยวไม่ได้เที่ยวอยู่ในภูเก็ตอย่างเดียวในทางกลับกันต้องเที่ยวเป็น(รูทติ้ง) เหมือนสมุยเหมือนกัน สมุยก็ต้องไปพังงา ไปเกาะเต่า ภูเก็ตก็ต้องไปพีพีเล ซึ่งเส้นทางเหล่านี้ก็ถือว่าออกนอกเส้นทางไปเที่ยวไม่ได้ อันนี้ดิฉันมองย้ำ ถ้าเราจะดึงดูดคน เอาแค่ตามเป้าก็น้อยมากแล้ว ก็คือ 3 เดือน แสนคน ถ้าเราไม่มีเส้นทางที่ แล้วอนุญาตให้เขาออกเส้นทาง (รูทติ้ง) การท่องเที่ยวเป็นเรื่องสำคัญ เสริมให้คนเดินทางเข้ามาแต่ปัญหาค่อนข้างมากดังนั้น การสื่อสารจะต้องง่าย เข้าใจ แล้วต่างประเทศเข้ามา รวมทั้งค่าใช้จ่าย ค่าใช้จ่ายในการเดินทางก็ดี ค่าใช้จ่ายในการ มันต้องพอสมควร ค่อนข้างที่จะสูงดังนั้นหากจะให้ประสบความสำเร็จ ต้องเอาเป้าหมายนั้นคือวัคซีน

"เราต้องการที่จะให้มีคนมาเที่ยวที่ภูเก็ต เราก็ต้องมองว่าเราต้องเอานักท่องเที่ยวเข้ามาให้ได้จำนวนมากพอสมควร และก็อยู่อย่างปลอดภัย วัคซีนได้ การตรวจได้ สิ่งต่างๆเหล่านี้ ความพร้อมก็ยัง  มีหนังสือพิมพ์ลง ราชการจังหวัด งบในการตรวจเชิงรุกเนี่ย  อย่างนี้พอเราเปิดแซนด์บ็อกซ์เราจะเกิดแบบนี้ไม่ได้ ทุกอย่างมันต้องบริหารจัดการ ในทุกมิติ อย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อให้แซนด์บ็อกซ์สำเร็จได้จริง ๆ แล้วมันก็ไปเกิดที่ๆอื่น แล้วเราก็จะเตรียมพร้อม ดิฉันขอสรุปในเบื้องต้นว่าก็ขอพูดเป็น 3 ส่วน ส่วนนึงก็คงจะเป็นส่วนของเรื่องภาพรวมว่ามันต้องให้ได้ 15 ล้านโดสต่อเดือน และวันละ 5 แสน ต้องตั้งเป้าว่าเราจะเปิดประเทศให้ได้สิ้นปีนี้ เทียบเท่ากับประเทศอื่น ๆ ที่เขาทำกันไม่งั้นเราจะตกรถ ไปอีกยาว ส่วนที่ 2 ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ก็ทั้งปัญหาวัคซีน ทั้งปัญหาเรื่องของการใช้ชีวิต ข้อกำหนดต่าง ๆ ค่าใช้จ่ายและ(รูทติ้ง)ดิฉันอยากให้มีความยืดหยุ่นกว่านี้ และประกาศให้ชัดเจนต่อนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ มันถึงจะเกิดการทดลองท่องเที่ยว ว่าเป็นแซนด์บ็อกซ์ได้จริง "

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์”ยืด14วัน ต่างชาติเข้าไทยลดฮวบ 50%

“ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ปลุกชีพ “สายการบิน” ขนต่างชาติเข้าไทย