ทัพภาค4สั่งเข้มชายแดน หลังคนมาเลย์ติดโควิด พันธ์อินเดีย-แอฟริกาใต้

05 พ.ค. 2564 | 08:20 น.

เเม่ทัพภาค 4 สั่งกองกำลังคุมเข้มชายแดน ไทย-มาเลย์ หลังมาเลเซียพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อินเดียและแอฟริกาใต้ เพิ่มขึ้น

วันที่ 5 พ.ค. 2564 พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 สั่งกำลังป้องกันชายแดนคุมเข้ม ลาดตระเวนแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย เฝ้าระวังป้องกันสกัดกั้นผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายผ่านทางช่องทางธรรมชาติ ที่อาจมาพร้อมเชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดียและแอฟริกาใต้ที่กำลังแพร่ระบาดในมาเลเซีย และพบมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นอยู่ในขณะนี้ โดยให้เข้มงวดมาตรการควบคุมโรคอย่างต่อเนื่องจริงจัง

ขณะนี้กำลังที่มีอยู่เฝ้า ได้ตรวจตลอดตามแนวชายแดนไทย - มาเลเซีย ขณะที่ผู้บัญชาการทหารบก ได้อนุมัติกำลังทหารเพิ่มเติม และมีการปรับแผนมาตรการป้องกันแนวชายแดนเข้มงวดมากยิ่งขึ้น พร้อมทำความเข้าใจ ประสานความร่วมมือกับฝ่ายปกครอง ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ตลอดจนประชาชนที่อยู่ในหมู่บ้านตามแนวชายแดนให้ตระหนักรู้ พร้อมเป็นหูเป็นตาเฝ้าระวังบุคคลที่แอบลักลอบเข้ามา โดยไม่ผ่านกระบวนการคัดกรองร่วมกับเจ้าหน้าที่

ทั้งนี้ ตลอด 1 ปีที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี และยังไม่พบมีการนำเชื้อจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาโดยไม่ผ่านกระบวนการคัดกรองโรค สำหรับข้อกังวลในช่วงฮารีรายอของชาวมุสลิมที่มีการคาดการณ์ว่าอาจจะมีผู้ลักลอบกลับมาจำนวนมากนั้น ก็ได้มีการเตรียมความพร้อมรองรับไว้หมดแล้ว ซึ่งตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน เป็นต้นมา

หลังจากที่รัฐบาลมาเลเซียได้ผลักดันให้แรงงานต่างชาติกลับประเทศนั้น พบว่า มีคนไทยเดินทางกลับเข้ามาค่อนข้างน้อยมาก ประมาณ 400 คนเท่านั้น อาจเป็นเพราะก่อนหน้านี้มีการทยอยเดินทางกลับสู่ประเทศมาก่อนแล้ว ตั้งแต่มาเลเซียมีการปิดประเทศเมื่อปลายปี 2563 โดยยอดรวมคนไทยที่เข้ากลับมาทั้งถูกต้องและลักลอบมีประมาณ 30,000 กว่าคน แต่หากมีการลักลอบเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติในช่วงดังกล่าวแล้วหลุดจากชายแดนไป ก็จะมี อสม. ผู้นำชุมชน ดูแลอีกชั้นหนึ่งเพื่อนำเข้ากระบวนการคัดกรองโรคทั้งหมด ซึ่งได้กำชับให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านช่วยสอดส่องเป็นหูเป็นตา หากพบกลุ่มคนต้องสงสัยหรือคนแปลกหน้าในพื้นที่ก็ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที

นอกจากนี้ การดูแลเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานตามแนวชายแดนให้ปลอดภัยจากเชื้อโควิด ถือเป็นสิ่งสำคัญ โดยนายกรัฐมนตรี ได้แสดงความห่วงใยต่อกำลังเจ้าหน้าที่ทุกนายซึ่งถือเป็นหน้าด่านสำคัญ ซึ่งขณะนี้มีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดให้แก่เจ้าหน้าที่เฝ้าตรวจตามแนวชายแดนทั้งฝั่ง ไทย-มาเลเซีย , ไทย-เมียนมา และให้ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท รวมถึงการปฏิบัติงานต้องมีการป้องกันตนเองจากเชื้อตามมาตรการที่รัฐกำหนดเพื่อให้มีความปลอดภัยทั่วกัน