พลิกเกม ลุย"แก้รัฐธรรมนูญ"รายมาตรา

18 มี.ค. 2564 | 23:30 น.

“จุรินทร์” โอดปชป.ดันสุดทางแล้วแก้รธน. มุ่ง “แก้รายมาตรา” ยังไม่ทบทวนร่วมรัฐบาล “ภูมิใจไทย” ยอมรับพลาดไม่ทันเกมการเมือง “พวกจ้องล้มรธน.” ด้าน พปชร.แก้เกี้ยวชงแก้รายมาตราไม่ต้องทำประชามติ 

ภายหลังที่ประชุมรัฐสภาได้ลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา ผลปรากฏว่า มี ส.ส.เห็นชอบ 206 เสียง ส.ว.2 เสียง รวมเป็น 208 เสียง ไม่เห็นชอบ ส.ส. ไม่มี ส.ว.มี 4 คน รวม 4 เสียง งดออกเสียง 94 เสียง แบ่งเป็น ส.ส.10 คน ส.ว 84 ไม่ประสงค์ลงคะแนน 136 เสียง แบ่งเป็น ส.ส.9 คน สว. 127 คน เสียงเห็นชอบไม่มากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้ง 2 สภา หรือ 369 เสียง ดังนั้นที่ประชุมจึงมีมติไม่เห็นชอบ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เพิ่มเติม มาตรา 15/1 ออกใช้เป็นรัฐธรรมนูญ

 

ปชป.ลุยแก้รธน.ต่อ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์ ได้ทำหน้าที่สุดพลังความสามารถและสุดทางแล้ว ที่จะผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมเสนอทางออกที่ขัดแย้งกับสองฝ่ายซึ่งเห็นไม่ตรงกันกับคำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพักก็ตัดสินใจเดินหน้าอย่างเต็มที่ในการโหวตลงมติ เห็นชอบแต่เสียงไม่พอ และยืนยันจุดเดิมต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะเดินหน้าต่อไป

“หากคิดเร็วๆ คือการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา โดยเฉพาะอุปสรรคกุญแจดอกใหญ่ที่คล้องประตูประชาธิปไตยไว้ ซึ่งต้องสะเดาะออก คือมาตรา 256 ที่มี วิธีซับซ้อนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ” 

นายจุรินทร์ยอมรับว่า พรรคประชาธิปัตย์มีเสียงประมาณ 50 เสียง ไม่ถึง 100 เสียง จึงไม่สามารถเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญโดยลำพังได้ ต้องร่วมมือกับพรรคการเมืองอื่น ในการยื่นญัตติแก้ไขต่อไป และจะนำเรื่องดังกล่าวหารือกับวิปรัฐบาล

ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นเงื่อนไขเข้าร่วมรัฐบาลจะตอบสังคมอย่างไร นายจุรินทร์ ยํ้าว่า เงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาลไม่มีการเปลี่ยนแปลง ยังต้องเดินหน้าตราบใดที่รัฐบาลยังไม่เปลี่ยนนโยบายในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ผูกพันกับรัฐสภา พรรคประชาธิปัตย์พร้อมร่วมมือกับพรรคร่วมในการแก้ไข

ต่อกรณีจะทบทวนการร่วมรัฐบาล หรือไม่นั้น นายจุรินทร์ ตอบว่า ตนเพียงคนเดียวยังไม่สามารถตอบได้ บางเรื่องเป็นเรื่องของอนาคตตราบใดที่ยังเข้าร่วมรัฐบาล ก็จะต้องผลักดันแก้รัฐธรรมนูญให้สำเร็จจงได้ ทั้งนี้หากสมาชิกและกระแสสังคมเรียกร้อง ต้องกลับไปทบทวนการร่วมรัฐบาลหรือไม่ ก็เป็นไปตามข้อบังคับพรรค เพราะประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคของใครคนใดคนหนึ่ง

 

พลิกเกม ลุย\"แก้รัฐธรรมนูญ\"รายมาตรา

 

ภท.ยอมรับพลาด  

ด้านท่าทีของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ได้ออกแถลงการณ์ตอนหนึ่งระบุว่า พรรคภูมิใจไทยพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมตกไป จึงสนับสนุนให้มีการชะลอการพิจารณาวาระที่ 3 ไว้ก่อน แล้วเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญกรุณาบอกแนวปฏิบัติตามคำวินิจฉัยกลาง เพื่อที่รัฐสภาจะได้ดำเนินการถูกต้อง และไม่ขัดต่อคำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นแนวทางที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอ และพรรคภูมิใจไทยเห็นชอบ  

จากข้อมูลที่ได้รับในเบื้องต้นก่อนเปิดประชุมรัฐสภา พอจะประเมินได้ว่าหากมีการลงมติ วาระ 3 ร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ที่ผ่านมา 2 วาระ ต้องตกแน่ พรรคภูมิใจไทยจึงเลือกแนวทางที่จะรักษาร่างรัฐธรรมนูญไว้ก่อน ด้วยการชะลอเวลา แล้วไปสอบถามศาลรัฐธรรมนูญ เพราะหาแนวทางที่จะเดินหน้าต่อไป ไม่ให้ร่างรัฐธรรมนูญตก แต่เราทำไม่สำเร็จ และสุดท้ายก็มีการลงมติวาระ 3 ซึ่งผลก็เป็นไปตามที่ได้ประเมินไว้ คือ ร่างรัฐธรรมนูญ ที่ทำกันไว้ตก และนำกลับมาพิจารณาไม่ได้แล้ว การไม่ลงมติ คือ การแสดงออกให้เห็นว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ขอ ร่วมกระทำการที่เรียกได้ว่าไม่จริงใจต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างตรงไปตรงมา

พรรคภูมิใจไทยยอมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ทุกประการ เพราะเราพลาดจริงๆ ที่ตามเกมการเมืองของผู้ที่จ้องจะล้มกระบวน การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ทัน เนื่องจากเราคิดไม่ถึงว่าจะมีการพลิกแพลงเปลี่ยนแปลงกันตลอดทั้งวัน เป็นการเล่นเกมที่จะเอาชนะกัน โดยไม่สนใจความรู้สึกของประชาชนที่จับตาดูการประชุมรัฐสภา และเฝ้ารอการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยต้องขอโทษที่ไม่สามารถรักษาร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญไว้ได้

แถลงการณ์ระบุในช่วงท้ายว่า พรรคภูมิใจไทยยังดำรงความมุ่งหมายที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมกับการร่างรัฐธรรมนูญต่อไป และจะเสนอร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ให้รัฐสภาพิจารณาต่อไป ตามแนวทางที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยไว้  

ภท.เล่นละครวอร์คเอาท์

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึง การโหวตควํ่าร่างรัฐธรรมนูญวาระ 3 ว่า เป็น การเล่นเกมการเมืองของหลายฝาย และชี้ให้เห็นแล้วว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ใครของจริงของปลอมโดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย ที่ส่วนตัวรู้สึกสับสน เพราะคาดไม่ถึงว่าจะใช้วิธีการวอร์คเอาท์ เพราะฝ่ายค้านยังคาดหวังเสียงจากพรรคภูมิใจไทย ที่ประกาศมาตลอดว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ และคาดว่าจะสามารถพลิกเกมให้ผ่านความเห็นชอบไปได้ แต่เมื่อพรรคภูมิใจไทยใช้วิธีการนี้ก็ยอมรับว่าผิดหวัง

อย่างไรก็ตาม เราจะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไปแน่นอน แต่จะแก้อย่างไรก็ต้องมาทบทวนบทเรียนกันก่อน

นอกจากนี้ นายสุทิน ยังถามถึงความรับผิดชอบไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ว่า ก่อนที่รัฐบาลจะทำประชามติ

หลังจากนี้ รัฐบาลควรตอบสังคมให้ได้ว่า นโยบายเร่งด่วนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร และจะรับผิดชอบอย่างไรในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเรื่องนี้เป็นเงื่อนไขสำคัญในการร่วมรัฐบาล และมีการแถลงนโยบายนี้ต่อรัฐสภาไว้ชัดเจน  

แต่พรรคร่วมรัฐบาลกลับมาล้มกันเอง ดังนั้น นายกฯ ต้องรับผิดชอบ แล้วค่อยเดินหน้าทำประชามติ ซึ่งหลังจากนี้จะเป็นเรื่องของรัฐบาลแล้ว เพราะการทำประชามติตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญต้องเริ่มจากรัฐบาล

 

“ชลน่าน” แต่งดำประท้วง

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ได้แต่งชุดดำ พร้อมติดปลอกแขนไว้ทุกข์ให้กับ “ด.ช.ร่างรัฐธรรมนูญ” ที่ถูกรัฐบาล พรรคร่วม และ ส.ว.ทำแท้งวาระ 3 ตีตกไป ซึ่งเป็นเจตนาชัดเจนของฝ่ายรัฐบาลที่ร่วมมือกันจะไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญ เห็นได้ชัดเจนว่ามีการเสนอญัตติเพื่อให้สภามีมติ เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นในสภาแห่งนี้ 

“หน้าที่ของสภา คือ ต้องพิจารณา แต่มีบางคนไปเสนอให้เลื่อนออกไป โดยอ้างว่าขัดรัฐธรรมนูญ อีกทั้งมองว่าพฤติกรรมทั้งหมดเป็นการขัดขวางไม่ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งที่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ให้อำนาจสภา จึงควรดำเนินตาม ไม่ใช่ไปขัด และปิดทางการทำประชามติ ดังนั้น ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามถือเป็นการฝ่าฝืน เพราะศาลรัฐธรรมนูญเปรียบเหมือนรัฐธรรมนูญ และกฎหมาย”

 

แก้รธน.ไม่ทำประชามติ

ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดย นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค ระบุถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ได้เตรียมการไว้แล้ว จะนำร่างแก้ไขรายมาตราเสนอต่อพรรค พปชร.พิจารณาเห็นชอบ เนื่องจากการจะแก้ไขหรือร่างใหม่ทั้งฉบับ คงจะเป็นเรื่องยุ่งยาก 

ดังนั้น ควรจะแก้เป็นรายมาตราที่ไม่ต้องมีการทำประชามติ คาดว่าจะเสนอได้ในสมัยการประชุมหน้า ทั้งนี้ในเรื่องของระบบเลือกตั้งก็ต้องนำมาหารือด้วยว่า การจะใช้บัตร 2 ใบ มีความเป็นไปได้หรือไม่อย่างไร

 

ไม่หักหลังพรรคร่วม

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการควํ่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ไม่กระทบกับพรรคร่วมรัฐบาลในการทำงาน เพราะก็แจ้งพรรคร่วมรัฐบาลแล้วว่า ฟรีโหวต และคุยกับพรรคร่วมเข้าใจไม่มีปัญหา 

ส่วนจะตอบคำถามกับประชาชนอย่างไร พล.อ.ประวิตรยืนยันว่า รัฐบาลตั้งใจจะแก้รัฐธรรมนูญอยู่แล้ว แต่จะแก้อย่างไรให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และขณะนี้ยังไม่รู้ว่าจะต้องเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเมื่อใดเนื่องจากยังไม่ได้ประชุมกัน 

พล.อ.ประวิตรยังกล่าวถึงกรณีพรรคภูมิใจไทยกล่าวหาพรรคพลังประชารัฐหักหลัง ว่า หักหลังเรื่องอะไร ก็บอกไปแล้วว่าปล่อยฟรีโหวต แล้วจะไปหักหลังอย่างไร ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่ามีการปล่อยให้อภิปรายทั้งวัน แล้วควํ่าร่างคือการหักหลัง ตนมองว่า ก็แล้วแต่ มันดึกแล้ว เขาก็ปล่อยให้ฟรีโหวตอยู่แล้ว และยํ้าว่า ไม่มีการหักหลังแน่นอน 

เมื่อถามยํ้าว่าการควํ่าร่างและวอร์คเอาท์ จะเป็นการถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ พล.อ.ประวิตรยืนยันด้วยนํ้าเสียงหนักแน่นว่า “ไม่มี” เพราะยังคุยกันดี และยํ้าจุดยืนรัฐบาลต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตนพูดมาหลายครั้งแล้ว 

 

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,663 หน้า 12 วันที่ 21 - 24 มีนาคม 2564