ฝ่ายค้านแฉ“บิ๊ก ป.”รับส่วยชงปปช.เอาผิดหลังซักฟอก

วันนี้ (15 ก.พ.64) นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ประธานคณะทำงานตู้ต้านโกง นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรค มอบข้อมูลเรื่องการทุจริตให้กลับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.จ.น่าน เพื่อใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในช่วงระหว่างวันที่ 16-19 ก.พ.นี้

นายวรวัจน์ เปิดเผยว่า ข้อมูลเรื่องการทุจริตที่ได้จากตู้ต้านโกง มีประชาชนและข้าราชการของรัฐส่งข้อมูลมาให้ ซึ่งมีความชัดเจน ว่ามีการจัดตั้งขบวนการรับส่วย ที่เรียกว่า “ขบวนการค้าส่วยสีขาว” ที่พบว่าตั้งแต่ปี 2557 มีการเก็บส่วยอย่างเป็นระบบ มีการแก้ไขกฎหมายให้มีการรับส่วย ที่จะเห็นได้ชัดจากเรื่องแรงงานต่างด้าวและยาเสพติด  โดยยกตัวอย่างกรณีการปล่อยให้แรงงานต่างด้าวเข้าประเทศ และ ส่งผลให้เกิดการระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ รวมทั้งคดีจับไอซ์ 1.5 ตัน เงียบหาย

“ขบวนการเก็บส่วย เป็นการแสวงหาผลประโยชน์บนความลำบาก ของประชาชน ที่ขนาดนี้ไม่มีรายได้ การชดเชยก็ไม่เพียงพอ แล้วหาก ส.ส.ยังไปยกมือให้ขบวนการเหล่านี้  ถ้า ส.ส.คนไหนยังยกมือให้ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปขอประชาชนอย่าไปเลือกเข้ามาอีก ผมเชื่อว่าการลงคะแนนครั้งนี้จะเห็นความแตกต่างอย่างแน่นอน” นายวรวัจน์ กล่าว

นพ.ชลน่าน  กล่าวแสดงความมั่นใจว่า หลังการอภิปรายในครั้งนี้ จะมีรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายถูกนำเรื่องส่งเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม 2 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มแรกคือ มีความผิดตามข้อกล่าวหาในเรื่องจริยธรรมร้ายแรง และอีกกลุ่มที่ทำผิดในเรื่องการทุจริต ทำผิดกฏหมาย และร่ำรวยผิดปกติ โดยเฉพาะเรื่องขบวนการรับส่วย มีหลักฐานและข้อมูลเพียงพอ ที่จะเอาผิดถึง “บิ๊ก ป.ปลา”

ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ พรรคฝ่ายค้านจะชี้ให้เห็นความผิดพลาดในการบริหารราชการแผ่นดิน สร้างความเดือดร้อน ทุกข์ยากให้ประชาชน การทุจริตเชิงนโยบายเอื้อประโยชน์กลุ่มทุนและพวกพอง แสวงหาผลประโยชน์อย่างเป็นกระบวนการ ซึ่งมีหลักฐานชัด หลังการอภิปรายฯ ฝ่ายค้านเดินหน้าต่อในการยื่นหลักฐานการทุจริตของคณะรัฐมนตรีต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพื่อเดินหน้าเอาผิดต่อไป

“มือในสภา ไม่เท่าศรัทธาประชาชน รัฐบาลอย่าเพิ่งรีบร้อน ประกาศคะแนนไว้วางใจจะออกมาเท่ากัน เพราะมีรัฐมนตรีต้องลุ้น ตกเก้าอี้-ติดคุก อยู่หลายคน” นายอนุสรณ์ กล่าว