เช็ก มติครม. 3พ.ย.  "แต่งตั้ง-โยกย้าย" ทุกกระทรวง-หน่วยงาน ได้ที่นี่

03 พ.ย. 2563 | 08:16 น.

ตรวจสอบมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 3 พฤศจิกายน มีมติ "แต่งตั้ง-โยกย้าย" ข้าราชการ-ข้าราชการการเมือง รัฐวิสาหกิจ ทุกกระทรวงและหน่วยงาน ได้ที่นี่

วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน 2563 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) สัญจร ที่จังหวัดภูเก็ต โดยที่ประชุมครม. มีมติแต่งตั้ง-โยกย้าย ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ ในหลายกระทรวง และหน่วยงานต่างๆ ดังนี้ 

 

กระทรวงการต่างประเทศ

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 2 ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ดังนี้  

1. นางพันทิพา เอี่ยมสุทธา เอกะโรหิต เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา สาธารณรัฐตุรกี ให้ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาดริด ราชอาณาจักรสเปน 

2. นายนิกรเดช พลางกูร เอกอัครราชทูตประจำกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม 

 

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป 

 

กระทรวงศึกษาธิการ 

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 2 ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ดังนี้  

1. นายประวิต เอราวรรณ์ ศึกษาธิการภาค สำนักงานศึกษาธิการภาค 2 สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สำนักงานปลัดกระทรวง

2. นายสุรินทร์ แก้วมณี ศึกษาธิการภาค สำนักงานศึกษาธิการภาค 5 สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง 

 

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป

สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 2 ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ดังนี้  

1. นางธิดา พัทธธรรม ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

2. นายวันฉัตร สุวรรณกิตติ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  

 

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป 

 

กระทรวงการคลัง

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิต จำนวน 5 คน เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งมาครบวาระสองปี ดังนี้ 

1. นางดาราพร ถิระวัฒน์   ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค 

2. นายอรรถพล อรรถวรเดช   ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค 

3. นางอัมพร ปุรินทวรกุล  ด้านการเงินการธนาคาร  

4. นายอนุชิต อนุชิตานุกูล  ด้านคอมพิวเตอร์  

5. นายธีรนันท์ ศรีหงส์    ผู้แทนผู้ประกอบการด้านธุรกิจภาคเอกชน 

 

ตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ในครั้งต่อ ๆ ไปให้กระทรวงการคลังดำเนินการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิตให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างเคร่งครัดด้วย ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559 (เรื่อง การดำเนินการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาตามกฎหมาย) 

 

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอแต่งตั้ง นายสรนิต ศิลธรรม เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการมาตรวิทยาแห่งชาติเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 เป็นต้นไป และให้ผู้ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพิ่มขึ้นอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว 

กระทรวงพลังงาน

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเสนอแต่งตั้ง นายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่ง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 เป็นต้นไป 

 

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอแต่งตั้งคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอุทยานธรณี โดยมีองค์ประกอบของคณะกรรมการฯ รวม 27 คน และอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการฯ รวม 7 ข้อ และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงาน ก.พ.ร. ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 เป็นต้นไป

 

องค์ประกอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นรองประธานกรรมการ กรรมการประกอบด้วย ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช อธิบดีกรมป่าไม้ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือผู้แทน อธิบดีกรมการท่องเที่ยว หรือผู้แทน อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม หรือผู้แทน อธิบดีกรมศิลปากร หรือผู้แทน

 

ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือผู้แทน ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือผู้แทน นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย หรือผู้แทน ผู้อำนวยการสมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย หรือผู้แทน ผู้ทรงคุณวุฒิด้านอุทยานธรณี ที่ประธานกรรมการแต่งตั้ง ผู้ทรงคุณวุฒิด้านธรณีวิทยา ที่ประธานกรรมการแต่งตั้ง ผู้ทรงคุณวุฒิด้านประวัติศาสตร์ ที่ประธานกรรมการแต่งตั้ง ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสังคมศาสตร์และวัฒนธรรม ที่ประธานกรรมการแต่งตั้ง ผู้ทรงคุณวุฒิด้านระบบนิเวศ ที่ประธานกรรมการแต่งตั้ง ผู้ทรงคุณวุฒิด้านธรรมชาติวิทยา ที่ประธานกรรมการแต่งตั้ง

 

โดยมีรองอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี ที่ได้รับมอบหมาย เป็นกรรมการและเลขานุการ ผู้อำนวยการกองธรณีวิทยา ผู้อำนวยการกองอนุรักษ์และจัดการทรัพยากรธรณี และนักวิเทศสัมพันธ์ สำนักความสัมพันธ์ต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ  

 

อำนาจหน้าที่ 

1. เสนอแนะนโยบายเกี่ยวกับการอนุรักษ์มรดกธรณีและอุทยานธรณีต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบและแจ้งหน่วยงานของรัฐนำไปสู่การปฏิบัติ  

2. กำหนดแผนงาน มาตรการ หลักเกณฑ์ และกลกไกการดำเนินงานอนุรักษ์มรดกธรณีและอุทยานธรณี โดยเน้นการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนเพื่อให้เกิดความยั่งยืนของการอนุรักษ์มรดกธรณีและการพัฒนาชุมชนท้องถิ่น พร้อมทั้งส่งเสริมสนับสนุนการจัดตั้งอุทยานธรณีและเครือข่ายของอุทยานธรณีประเทศไทย รวมถึงการดำเนินกิจกรรมกับเครือข่ายอุทยานธรณีโลกระดับต่าง ๆ   

3. รับรองการเป็นอุทยานธรณีระดับประเทศ และเสนออุทยานธรณีระดับประเทศที่มีความพร้อม โดยความเห็นชอบจากกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะสำนักเลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบในการสมัครเข้ารับรองเป็นอุทยานธรณีโลกของยูเนสโก  

4. ติดต่อประสานงานกับยูเนสโกเกี่ยวกับการดำเนินกิจกรรมภายใต้กรอบงานอุทยานธรณีโลก  

5. ประสานงานและติดตามการปฏิบัติงานของหน่วยงานภาครัฐเพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบาย แผนงาน มาตรการและกลไก  

6. แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ และ/หรือ คณะทำงานได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม 

7. ปฏิบัติหน้าที่อื่นใด ปฏิบัติการอื่นใด ตามที่นายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย