ความในใจ "หมอทวีศิลป์" วอนคนทั้งชาติ “ละทิ้งความขัดแย้ง” สู้โควิด (คลิป)

วันที่ 11 เม.ย. 63 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด(ศบค.)  ใช้เวลาประมาณ 5 นาที ก่อนจบการแถลงของศูนย์โควิด เพื่อชี้แจงการทำหน้าที่โฆษกศบค.ของตัวเอง แต่มีคนนำไปวิจารณ์และตั้งคำถามการทำงานในเชิงลบ (อ่านเพิ่มเติม...ต้องแย่แค่ไหนถึงเกลียดชัง“คุณหมอทวีศิลป์”ได้ลง?)

นายแพทย์ทวีศิลป์ชี้แจงดังนี้ “อยากจะทิ้งท้ายสักนิดนึงนะครับ เพราะว่าผมได้สื่อสารกับท่านผู้ชมผ่านการแถลงข่าวทุกวันนี้ ก็ขอขอบพระคุณกับคำแนะนำของทุกๆท่าน ไม่ว่าจะเป็นพิธีกร ไม่ว่าจะเป็นศิลปินดารานะครับ คณบดี อาจารย์อะไรทั้งหลายที่ได้ลงในโซเชียลมีเดีย ในเรื่องของวิธีการในการที่จะแถลงข่าวต่างๆเหล่านี้ 

รับฟังทุกเรื่องนะครับ ถึงแม้ผมไม่ได้ใช้ทางนี้ในการตอบไป แต่เรื่องต่างๆเหล่านี้ผมเชื่อว่าท่านมีความตั้งใจดี มีความสนใจในเนื้อหาข่าวสาร ก็เพียงแค่ต้องการวิธีการนำเสนอหรือวิธีการที่จะพูดคุยอะไรทั้งหลายที่ผมเองอาจจะต้องปรับ แล้วก็ทำให้มันดียิ่งขึ้น เพื่อให้คนทุกส่วนของประเทศไทย

อย่างที่บอกนะครับ ผมว่า การร่วมมือที่ต้องการ คือต้องการเกือบๆ 100% เราถึงจะปรับทิศทาง ของการแพร่ระบาดของโรคพวกนี้ได้ 80%ก็ไม่พอ  90% ขึ้นนะครับถึงจะพอ 

ท่านเองคงเป็นห่วงผมที่จะต้องสื่อสารตรงนี้ ต้องขอบพระคุณในทุกวิถีทางในทุกวิธี ผมฟัง ผมอ่าน แล้วก็นำมาสู่การปรับใช้ แต่จริงๆแล้วเนื้อหาสาระของเรา ผมเองในฐานะโฆษกของศบค. ต้องดูแลเรื่องของการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร ซึ่งเรามีศูนย์ทั้งหมดที่อยู่อันเดอร์ของศบค. ทั้งหมด 8 ศูนย์

ยกตัวอย่างการแพทย์ อันนึงเท่านั้นเองนะครับ ยังต้องมีมาตรการการป้องกันช่วยเหลือประชาชน มีเรื่องหน้ากาก มีเรื่องควบคุมสินค้า มีเรื่องการเดินทางเข้าออกต่างประเทศ มีเรื่องของสื่อสารโทรคมนาคมสื่อสารออนไลน์ มีเรื่องของการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง มีเรื่องของฐานข้อมูลและข้อมูลต่างๆ

หน้าที่ผมต้องนำชุดข้อมูลต่างๆเหล่านี้มาแปลงเป็นชุดข้อมูลที่เหมาะสมและสื่อสารต่อประชาชน เพราะฉะนั้นถ้าบางเรื่องที่จะต้องโยงไป ไม่ได้มีเจตนาที่จะไปโยงให้มันเชื่อมโยงอะไรกับการเมืองอะไรทั้งหลายนะครับ (ยิ้ม) เป็นการเชื่อมโยงแล้วจะทำความเข้าใจให้เกิดมาตรการต่างๆเหล่านี้

ผมต้องขอขอบคุณคนที่จัดชุดข้อมูลของผม มากมายครับ บางคนไม่ได้นอนนะครับ ทีมที่ผมพูดบ่อยๆคือกองระบาดวิทยาของกรมควบคุมโรค  Situation Awareness Team หรือ ทีม SAT ส่งข้อมูลมาให้ผมตอนตี 2 ตี 3 

ผมได้ยินเสียงสะดุ้งตื่นก็ต้องมาอ่านดู เราต้องเตรียมข้อมูลกันขึ้นมาเพื่อที่จะดู แล้วต้องมีประชุมกัน 07.30 น.ทุกวัน ตอนเช้าของทางกระทรวงสาธารณสุข  08.30 น. ก็อยู่ที่ทำเนียบรัฐบาลกัน  ซึ่งจะต้องรวบรวมชุดข้อมูลมามากมาย 

โรคนี้เป็นโรคใหม่ครับ เราเพิ่งรู้จักเขาแค่ 3 เดือนนี้ เพราะฉะนั้นมีอะไรที่ติดขัดก็ขออภัย มีอะไรที่เราจะต้องปรับปรุงท่านก็บอกมา 

ตอนนี้สิ่งที่เราต้องการมากที่สุดคือความร่วมมือของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ 90% ขึ้นไปครับ สิ่งที่เรามองเห็นไม่ตรงกัน มองเห็นแล้วมันต้องมีข้อต้องแยกแยะอะไรทั้งหลาย เราต้องใช้เวลาตรงนั้นให้น้อยที่สุด  เพื่อจะได้สู้กับไวรัส ซึ่งมันตัวเล็กนิดเดียวแล้วเรามองเขาไม่เห็น เราจะต้องจัดการในช่วงเวลาทั้งสั้นมาก

บางเรื่องการตัดสินใจโดยเร็วอาจจะมีประเด็นที่จะต้องพูดคุยกันหรือต้องมีปรับปรุงแก้ไข ถ้าคำแนะนำที่เกิดขึ้นมาจากพี่น้องประชาชน จากนักวิชาการหรือจากทีมอะไรทั้งหลาย ผมเองในฐานะเป็นจิตแพทย์ รับทราบ แล้วก็ยอมรับทุกเรื่องนะครับ 

หน้าที่ของการแถลงข่าวตรงนี้ ก็ไม่ใช่เป็นอาชีพผมเหมือนกันครับ  เรื่องของการแถลงข่าวเป็นภาระหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมา ก็พยายามทำให้มันดีที่สุด โดยใช้ความรู้ทางการแพทย์เข้ามา เรื่องต่างๆต้องเรียนรู้เกือบทั้งหมด ทั้งระบาดวิทยา ทั้งความมั่นคง ทั้งด้านต่างๆ ก็อาจจะมีข้อที่ต้องปรับปรุงตลอดเวลา  ผมก็ใส่ใจไว้ทุกอย่างอย่างดี

ถ้าเราจะกลับมาช่วยกัน สร้างบรรยากาศของประเทศไทยตอนนี้ ให้ทั้งประเทศ ให้ทั้งโลกเขาเห็นว่าเราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เราละทิ้งสิ่งที่ขัดแย้งทั้งหมด แล้วเราต้องมีศัตรูร่วมกันคือเชื้อโรคตัวนี้นะครับ ซึ่งมันอยู่กับเราไปอีกหลายเดือน แล้วให้เห็นว่าพลังของพวกเราทุกคนนี่การแหละครับ ช่วยทำให้ตัวเลขของการเพิ่มขึ้นเป็นศูนย์ให้ได้ภายในเวลาอันสั้น

ต้องขอกราบขอบพระคุณทุกท่าน ในทุกๆคอมเม้น ในทุกๆเรื่องนะครับ ก็จะเก็บไว้ แล้วจะนำมาพัฒนา พรุ่งนี้จะต้องดีกว่าวันนี้ ผมพูดกับตัวเองอย่างนี้เสมอ กราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูง แล้วก็ขอจบเพียงเท่านั้น ขอบพระคุณครับ”