“คำสั่งเสีย” ของ นพ.มงคล ณ สงขลา 'ให้ศพของผมได้ใช้ประโยชน์...'   

13 ธ.ค. 2563 | 01:22 น.

เปิดคำสั่งเสียสุดท้าย ของนายแพทย์มงคล ณ สงขลา ก่อนจากไปอย่างสงบด้วยโรคมะเร็ง ได้สั่งเสียบุตรชายให้จัดงานเรียบง่าย งดรับพวงหรีดขอบริจาคเงินแก่โรงพยาบาล พร้อมบริจาคร่างกายเป็น "อาจารย์ใหญ่"

จากกรณีการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ของ นพ.มงคล ณ สงขลา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ด้วยวัย 79 ปี เมื่อช่วงค่ำวันที่ 11 ธันวาคม เวลา 22.00 น.  เบื้องต้นจะมีงานสวดพระอภิธรรม นพ.มงคล ณ วัดปริวาส พระราม 3 ในวันที่ 15 ธ.ค. 2563 เวลา 18.30 น. และ พิธีฌาปนกิจ เวลา 14.00 น. ณ เมรุวัดปริวาส

 

โดย นพ.มั่นจิตต์ ณ สงขลา บุตรชายของ นพ.มงคล ได้ระบุไว้ใน เฟสบุ๊กส่วนตัว ถึงคำสั่งเสียของบิดา ที่มีปณิธานแน่วแน่ที่จะบริจาคร่างกายตนเองเพื่อให้ได้ศึกษาต่อ และงดจัดงานศพอย่างสิ้นเปลือง ดังนี้

 

"นพ.มงคล ได้สั่งเสียมาตลอดว่าอยากให้จัดงานสั้นๆ อย่างเรียบง่าย และจะบริจาคร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่ให้กับคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล งานศพให้จัดสวดเพียง 1 คืนเท่านั้นที่วัดปริวาสราชสงคราม เขตยานนาวา 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เศร้า “นพ.มงคล ณ สงขลา” อดีตรมว.สาธารณสุข เสียชีวิต

“นพ.มงคล ณ สงขลา” จากแพทย์ชนบทดีเด่น สู่ รมว.สาธารณสุข


และกำชับตลอดว่าขอไม่รับพวงหรีด ดอกไม้หรือปัจจัยใดๆ ก็ตาม หากญาติมิตรหรือผู้ใดต้องการมาร่วมงานแต่ไม่สะดวก ขอให้ทำบุญบริจาคให้กับโรงพยาบาลใดๆ ก็ได้ที่สะดวก โดยให้ถือว่าเป็นการทำบุญร่วมกัน คุณพ่อได้รับความห่วงใยจากญาติพี่น้องและกัลยาณมิตรมาโดยตลอด ทั้งตอนที่แข็งแรงและเจ็บป่วย"
 
  “คำสั่งเสีย” ของ นพ.มงคล ณ สงขลา \'ให้ศพของผมได้ใช้ประโยชน์...\'   

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ย้อนกลับไป เมื่อวันที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมา นพ.มงคล ได้ระบุผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Mongkol Na Songkhla ถึงเรื่องราวการรักษาอาการป่วยด้วยโรคมะเร็งที่ไต ใจความว่า

 

"แม้แต่ในวันตาย ผมจะเอาศพส่งไปบริจาคที่ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ซึ่งเป็นบ้านเก่าของผม เพราะผมเคยเรียน เคยนอนอยู่ที่นั่น ศพของผมจะได้ใช้ประโยชน์ให้กับนักศึกษาแพทย์"

 

“แม้แต่ในวันตาย ผมจะเอาศพส่งไปบริจาคที่ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ซึ่งเป็นบ้านเก่าของผม เพราะผมเคยเรียน เคยนอนอยู่ที่นั่น ศพของผมจะได้ใช้ประโยชน์ให้กับนักศึกษาแพทย์ ถึงแม้ว่าจะมีประโยชน์น้อย เพราะโดนตัดไตไปแล้ว และร่างกายส่วนอื่นๆ ก็ไม่ค่อยสมบูรณ์ แต่ก็ไม่เป็นไร ยังเอาไปใช้ประโยชน์ได้อีกหลายอย่าง"

 

"เสร็จแล้วไม่ต้องไปทำพิธีศพ ไม่ว่าสวด หรือเผา หลังจากเอาร่างกายไปมอบให้ศิริราชแล้ว ญาติ พี่น้อง เพื่อน จะเอาแค่รูป กลับมาที่วัดปริวาส พระราม 3 เอารูปไปวางเอาไว้ แล้วสวดหนึ่งคืน สวดรูป ไม่ได้สวดศพ ให้สมมุติว่ารูปคือศพ โดยสวดเพียง 1 คืนที่วัด จากนั้นวันรุ่งขึ้นให้ทำบุญ เลี้ยงพระ เสร็จแล้วก็เอารูปที่สวดไปเผา ไม่ต้องเผาในเตา ให้แกะกรอบรูปออกมาแล้วเผารูปริมแม่น้ำ ปล่อยให้ขี้เถ้าลอยไปกับน้ำ แล้วญาติพี่น้องทุกคนก็กลับจบสิ้น”

 

"ท่านไม่ต้องเอาอะไรไปเลย ให้ไปตัวเปล่า ๆ ไปทำบุญร่วมกัน พวงหรีด ดอกไม้ไม่ต้องเอา เอาแค่ใจไป ถ้าท่านอยากจะทำบุญให้ผม สามารถทำบุญที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องทำให้กับเจ้าภาพ"

 

“ผมเป็นห่วงมาก คือ การทำบุญ ทุกหนทุกแห่งเวลาทำบุญ ก็จะเอาพวงหรีดไป ผมเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ ไม่อยากให้เอาพวงหรีดไปให้เป็นมลภาวะ ท่านไม่ต้องเอาอะไรไปเลย ให้ไปตัวเปล่า ๆ ไปทำบุญร่วมกัน พวงหรีด ดอกไม้ไม่ต้องเอา เอาแค่ใจไป ถ้าท่านอยากจะทำบุญให้ผม สามารถทำบุญที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องทำให้กับเจ้าภาพ เจ้าภาพจะไม่รับเงิน แต่ขอให้ท่านเอาเงินใส่ซอง หรือเอาเงินส่งเข้าบัญชีโรงพยาบาลทุกแห่ง ทั้งโรงพยาบาลเล็ก โรงพยาบาลใหญ่ทั่วประเทศ นั่นคือท่านได้ทำบุญร่วมกันแล้ว นี่คือสิ่งที่จะขอร้อง ผมขอขอบคุณทุก ๆ คนที่ช่วยกันทำบุญในครั้งนี้ ขอขอบคุณอย่างสูงครับ”