ตลาดหุ้นไทยวันที่ 12 เมษายน 2564 เคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน รับแรงขายกดดันอย่างหนักจากยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในประเทศพุ่งขึ้นต่อเนื่อง มีผลต่อความเขื่อมั่นและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของไทย โดยเฉพาะการท่องเที่ยว รวมถึงกลุ่มไฟแนนซ์ที่มีปัจจัยลบจากการปรับปรุงอัตราดอกเบี้ยและวิธีคิดดอกเบี้ย และแรงขายลดความเสี่ยงก่อนหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 1,541.12 จุด ลดลง 25.22 จุด หรือเปลี่ยนแปลง 1.61% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 78,223.59 ล้านบาท ขณะที่ ดัชนีสูงสุดอยู่ที่ 1,562.07 จุด และต่ำสุดอยู่ที่ 1,539.24 จุด
หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
KBANK ปิดที่ 138.50 บาท ลดลง 4.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,528.63 ล้านบาท
CPALL ปิดที่ 63.75 บาท ลดลง 1.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,051.52 ล้านบาท
BDMS ปิดที่ 22.20 บาท ลดลง 0.10 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,024.38 ล้านบาท
STGT ปิดที่ 43.50 บาท ลดลง 2.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,849.64 ล้านบาท
DELTA ปิดที่ 367.00 บาท ลดลง 8.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,754.26 ล้านบาท
หลักทรัพย์ที่กดดัชนีมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
AOT ปิดที่ 65.75 บาท ลดลง 1.00 บาท มีผลต่อดัชนี -1.2571 จุด
BAY ปิดที่ 35.50 บาท ลดลง 1.75 บาท มีผลต่อดัชนี -1.1327 จุด
KBANK ปิดที่ 138.50 บาท ลดลง 4.50 บาท มีผลต่อดัชนี -0.9382 จุด
SCB ปิดที่ 106.50 บาท ลดลง 3.00 บาท มีผลต่อดัชนี -0.8964 จุด
DELTA ปิดที่ 367.00 บาท ลดลง 8.00 บาท งมีผลต่อดัชนี -0.8781 จุด