ดาวโจนส์ปิดลบ 96 จุด นักลงทุนจับตาผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน

06 เม.ย. 2564 | 23:44 น.

ดาวโจนส์ปิดลบ 96.95 จุด นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และความคืบหน้าแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายหลังจากดัชนีดาวโจนส์และ S&P500 ปิดทำนิวไฮเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งความคืบหน้าในการผลักดันแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงินกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,430.24 จุด ลดลง 96.95 จุด หรือ -0.29% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,073.94 จุด ลดลง 3.97 จุด หรือ -0.10% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,698.38 จุด ลดลง 7.21 จุด หรือ -0.05%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กค่อนข้างซบเซาเมื่อคืนนี้ แม้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2564 สู่ระดับ 6% จากระดับ 5.5% และปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจปี 2565 สู่ระดับ 4.4% จากระดับ 4.2%

หุ้น 5 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปรับตัวลง นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง 0.38% โดยหุ้นอัลฟาเบท ลดลง 0.44% หุ้นไมโครซอฟท์ ปรับตัวลง 0.49% หุ้นเฟซบุ๊ก ลดลง 0.86% หุ้น Nvidia ลดลง 0.90%

อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคดีดตัวขึ้น 0.53% ขานรับความหวังเกี่ยวกับแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของปธน.ไบเดน โดยหุ้นเอ็กเซลอน คอร์ปอเรชั่น เพิ่มขึ้น 0.18% หุ้นดุ๊ค เอนเนอร์จี บวก 0.64%

หุ้นสแนป (Snap) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Snapchat ทะยานขึ้น 5.12% หลังได้รับการปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนจากนักวิเคราะห์ของบริษัทแอตแลนติก อิควิตี้ส สู่ระดับ "Overweight" จากระดับ "Neutral"

หุ้นโนวาแว็กซ์ ปรับตัวขึ้น 0.8% หลังบริษัทประกาศแผนการขยายการทดลองวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ภายในไตรมาสส 2/2564 โดยครอบคลุมถึงการทดลองในเด็กและวัยรุ่น

หุ้นนอร์วีเจียน ครูซ ไลน์ โฮลดิ้งส์ พุ่งขึ้น 4.61% หลังจากบริษัทประกาศว่าจะเริ่มให้บริการเรือสำราญนอกเขตแดนสหรัฐในเดือนก.ค.นี้ หลังจากที่หยุดให้บริการเป็นเวลานานนับปี เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งความคืบหน้าในการผลักดันแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของปธน.ไบเดน ขณะที่นางเจนนิเฟอร์ แกรนโฮล์ม รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า หากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการอนุมัติแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงินกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ ปธน.ไบเดนก็อาจจะผลักดันแผนการดังกล่าวโดยไม่พึ่งพาเสียงสนับสนุนจากพรรครีพับลิกัน

นางแกรนโฮล์มเปิดเผยว่า ปธน.ไบเดนอาจจะใช้วิธีการผลักดันแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานแบบ fast track โดยใช้แนวทางจัดทำงบประมาณที่เรียกว่า Budget Reconciliation ซึ่งจะปูทางให้สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาสามารถให้การรับรองงบประมาณดังกล่าวด้วยคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่ง แทนที่จะใช้คะแนนเสียง 2 ใน 3 สำหรับการผ่านกฎหมายทั่วไป และทำให้ปธน.ไบเดนสามารถผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว โดยไม่จำเป็นต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรครีพับลิกัน

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนนี้ สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 7.4 ล้านตำแหน่งในเดือนก.พ. จาก 6.9 ล้านตำแหน่งในเดือนม.ค. โดยตัวเลข JOLTS นับเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ให้ความสนใจ เนื่องจากมองว่าเป็นมาตรวัดภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นปัจจัยในการพิจารณานโยบายการเงิน และอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ดุลการค้าเดือนก.พ., รายงานการประชุมเดือนมี.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมี.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.พ.