อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทกลับมาปิดตลาดในประเทศที่ระดับ 30.54 บาทต่อดอลลาร์ฯ หลังแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 9 เดือนครั้งใหม่ในระหว่างวันที่ระดับ 30.44 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทสอดคล้องกับทิศทางของเงินหยวนและสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชีย ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ มีสัญญาณอ่อนแอต่อเนื่อง ภายหลังนาย โจ ไบเดนตัวแทนจากพรรคเดโมแครตประกาศชัยชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในครั้งนี้ นอกจากนี้เงินบาทยังมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากแรงซื้อสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติด้วยเช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทเปิดตลาด"อ่อนค่า"
-อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทปิด"แข็งค่า"สุดในรอบกว่า9เดือน
-ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวก หลัง“โจ ไบเดน” ประกาศชัยชนะเลือกตั้ง
-ลงทะเบียนคนละครึ่งรอบ2 คลังฯย้ำคุณสมบัติผู้ลงทะเบียนคนละครึ่ง11/11
สำหรับสถานะการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยที่ 2,285.29 และ 2,200 ล้านบาทตามลำดับ
ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนจากข้อมูลของธนาคาร 10 แห่งสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 9 พฤศจิกายน 2563 โดยธปท. อยู่ที่ -0.56 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ 3.68 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ คาดไว้ที่ 30.40-30.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่จุดสนใจของตลาดน่าจะอยู่ที่การประเมินทิศทางนโยบายเศรษฐกิจของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ รวมถึงท่าทีของปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งอาจเป็นชนวนความไม่แน่นอนของสถานการณ์ทางการเมืองสหรัฐฯ ในช่วงหลายสัปดาห์ข้างหน้า