ดาวโจนส์ ปิดบวก 113 จุด รับความหวังแผนกระตุ้นศก.ใกล้คลอด

20 ต.ค. 2563 | 23:56 น.

ดาวโจนส์ปิดบวก 113.37 จุด รับความหวังพรรคเดโมแครตและทำเนียบขาวใกล้จะบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่เพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า พรรคเดโมแครตและทำเนียบขาวใกล้จะบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่เพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกหลังจากบริษัทโมเดอร์นาเปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐอาจอนุญาตให้มีการใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของทางบริษัทเป็นกรณีฉุกเฉินในเดือนธ.ค.นี้
          

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,308.79 จุด เพิ่มขึ้น 113.37 จุด หรือ +0.40% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,443.12 จุด เพิ่มขึ้น 16.20 จุด หรือ +0.47% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,516.49 จุด เพิ่มขึ้น 37.61 จุด หรือ +0.33%
          

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นหลังจากนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐกล่าวว่า พรรคเดโมแครตและทำเนียบขาวใกล้จะบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ขณะเดียวกันนางเพโลซีไม่ได้ให้ความสำคัญต่อกำหนดเส้นตายที่มีการประกาศก่อนหน้านี้ว่าทั้งสองฝ่ายจะต้องบรรลุข้อตกลงดังกล่าวภายในวันอังคารตามเวลาสหรัฐ โดยนางเพโลซีส่งสัญญาณว่าการเจรจาจะยังคงดำเนินต่อไป
         

นางเพโลซีระบุว่า การที่จะให้สภาคองเกรสออกกฎหมายว่าด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เสร็จก่อนวันเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย.นั้น สมาชิกสภาคองเกรสจะต้องมีการบรรลุข้อตกลง และมีการเขียนร่างกฎหมายภายในสัปดาห์นี้
          

นอกจากนี้ ตลาดได้แรงหนุนหลังจากบริษัทโมเดอร์นา อิงค์ เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐอาจจะอนุญาตให้มีการใช้วัคซีนต้านโควิด-19 ของโมเดอร์นาเป็นกรณีฉุกเฉินในเดือนธ.ค.นี้ หากวัคซีนของบริษัทมีผลการทดลองทางคลีนิกเป็นที่น่าพอใจในเดือนพ.ย.นี้ โดยข่าวดังกล่าวช่วยหนุนราคาหุ้นโมเดอร์นาปิดตลาดบวก 0.49%
          

หุ้นสินค้าผู้บริโภคและกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้นขานรับความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยหุ้นโคคา-โคลา พุ่งขึ้น 1.29% หุ้นเป๊ปซี่โค บวก 0.21%  หุ้นคราฟท์ ไฮนซ์ ปรับตัวขึ้น 0.76% ส่วนหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมนั้น หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ บวก 0.9% หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก บวก 0.75% หุ้น 3M ปรับตัวขึ้น 0.77%
          

หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมัน โดยหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ทะยานขึ้น 4.68% หุ้นอ็อคซิเดเชียล ปิโตรเลียม พุ่งขึ้น 2.55% หุ้นเอ็กซอน โมบิล บวก 0.9% หุ้นเชฟรอน ปรับตัวขึ้น 0.56%
          

หุ้นพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) ดีดตัวขึ้น 0.34% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรที่ระดับ 1.63 ดอลลาร์/หุ้นในเดือนก.ค.-ก.ย. ซึ่งเป็นไตรมาส 1 ตามปีงบการเงินของบริษัท สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.42 ดอลลาร์/หุ้น โดยได้อานิสงส์จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้ผู้บริโภคแห่ซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัท
          

หุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 1.23% หลังจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า โกลด์แมน แซคส์ ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกับกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐ ในการจ่ายเงินกว่า 2 พันล้านดอลลาร์เพื่อยุติคดีกองทุน 1MDB อันอื้อฉาวของรัฐบาลมาเลเซีย
          

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 1.9% ในเดือนก.ย. สู่ระดับ 1.415 ล้านยูนิต แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.457 ล้านยูนิต จากระดับ 1.388 ล้านยูนิตในเดือนส.ค.
          

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย., ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.ย.จาก Conference Board, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนต.ค.จากมาร์กิต และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนต.ค.จากมาร์กิต