รมว.คลัง เตรียม ออกมาตรการให้ของขวัญปีใหม่ประชาชน

              นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการมอบนโยบายให้กับผู้บริหารกระทรวง ว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)พิจารณามาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ทั้ง 3 โครงการที่ออกมา ทั้งโครงการคนละครึ่ง เพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และช้อปดีมีคืน ว่าสามารถกระตุ้นกำลังซื้อภาคประชาชนได้มากน้อยเพียงใด และให้เตรียมมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อช่วงไตรมาส 4 เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน ที่จับจ่ายช่วงสิ้นปี 2564 นี้

                “ที่ผ่านมากระทรวงการคลังมีของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนทุกปี ปีนี้ก็จะให้เตรียมไว้ เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งจะเป็นการเข้าไปดูแลการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนในช่วงปีใหม่ด้วย”นายอาคม กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"อาคม"ชู 5 มาตรการฟื้นเศรษฐกิจระยะสั้น  

คลัง จี้ ธปท.สรุป ยืดเวลาพักชำระหนี้

รมว.คลัง เตรียม ออกมาตรการให้ของขวัญปีใหม่ประชาชน

รมว.คลัง ไม่ห่วงม๊อบกระทบเชื่อมั่น

                 นอกจากนี้ยังได้ให้ไปเร่งหามาตรการกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชน โดยเฉพาะการดึงกลุ่มของการท่องเที่ยวที่สามารถดึงดูดการลงทุนเข้าประเทศเพิ่มเติม (Investment Tourism)  และกลุ่มนักลงทุนโดยตรง โดยจะต้องหารือกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI) ด้วยว่าจะมีแนวทางใดเพิ่มเติมได้อีก

                “การลงทุนที่เราพูดถึงอาจไม่ใช่นักลงทุนอย่างเดียวที่จะเข้ามาในประเทศ หรือใน EEC แต่จะรวมถึงนักลงทุนท่องเที่ยว ก็คือ กลุ่มนักท่องเที่ยวที่ชอบเมืองไทย ที่เข้ามาพักยาว เขาอาจจะเห็นโอกาสในการลงทุน ซึ่งมองว่าจะเป็นอีกตัวที่จะดึงเม็ดเงินเข้ามาลงทุนในไทยได้ เหมือนสมัยก่อนที่เราเน้นการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพราะไทยปลอดเชื้อโควิด-19 จึงถึงเป็นสวรรค์ของนักลงทุน”นายอาคม กล่าว

                ขณะเดียวกันยังได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงการคลัง จัดตั้งคณะกรรมการเร่งรัดเบิกจ่ายการลงทุนของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 สัปดาห์เพื่อให้ติดตามการเบิกจ่ายงบประมาณการลงทุน ตรวจสอบ การใช้จ่าย ติดตามความก้าวหน้าของโครงการ รวมถึงดูแลให้การเบิกจ่ายเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากมีความเกี่ยวโยงกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ

                ขณะที่ปัญหาการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ(ซอฟต์โลน) ของธปท.นั้น ทางกระทรวงการคลังจะหารือร่วมกับสำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) เพื่อดูตัวเลขการขอสินเชื่อ รวมถึงเงื่อนไขหลักเกณฑ์ต่างๆ ว่าเป็นอย่างไร และมีผลกับการขอสินเชื่อแต่ละภาคธุรกิจมากน้อยเพียงใด ซึ่งจะรวมไปถึงธุรกิจสายการบินด้วย