จับตากองทุน เทขายหุ้น โยกซื้อ SCGP
หุ้นน้องใหม่ SCGP เตรียมเทรดเดือนตุลาคมนี้ โบรกแนะจับตา SET50 และอุตสาหกรรมเดียวกันปรับฐานรับแรงขาย เตรียมโยกเงินซื้อไอพีโอ หลัง 18 บลจ.ชิงเป็นผู้ลงทุนหลักเฉพาะเจาะจง กว่า 23,700 ล้านบาท
การระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เริ่มกลับมาดำเนินการต่อได้ เมื่อสถานการณ์ โควิด-19 ในประเทศเริ่มคลี่คลายลง หลังจากต้องหยุดชะงักไปในช่วงที่มีการระบาดหนัก เหตุเพราะขั้นตอนการเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก(ไอพีโอ) หรือ IPO ต้องมีการโรดโชว์ เพื่อให้ข้อมูลกับนักลงทุน แต่ไม่สามารถดำเนินการได้จากมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม
ขณะนี้มีบริษัทจดทะเบียน(บจ.) เริ่มซื้อขายไอพีโอ แล้ว 5 ราย รวมถึงยังมีบจ.ที่รอเข้าจดทะเบียนอีก 29 ราย และหนึ่งในนี้ที่นักลงทุนให้ความสนใจคือ บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) (SCGP)
รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)เปิดเผยว่า SCGP จะเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวนไม่เกิน 1,127.6 ล้านหุ้น หรือ 26.5% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ในราคาจองซื้อที่หุ้นละ 33.5-35 บาท โดยกำหนดระยะเวลาจองซื้อแต่ละประเภทคือ ผู้ถือหุ้นของ SCGP ที่มีสิทธิได้รับการจัดสรร, ผู้ถือหุ้นของบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC) ที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้น และผู้มีอุปการคุณของ SCGP สามารถจองซื้อในวันที่ 28 กันยายน-2 ตุลาคม 2563
ส่วนนักลงทุนรายย่อยจองซื้อได้ในวันที่ 1,2 และ 5 ตุลาคม 2563 และบุคคลตามดุลพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์จองซื้อวันที่ 5-7 ตุลาคม 2563 ทั้งนี้ คาดว่าจะเริ่มซื้อขายครั้งแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนตุลาคม 2563 นี้
สำหรับการเข้าซื้อขายของ SCGP ยังมีโอกาสเข้าคำนวณในดัชนี SET50 และ SET100 แบบทันที (Fast track) ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ณ ราคาไอพีโอ ที่ประมาณ 140,000-150,000 ล้านบาท ทำให้ได้รับความสนใจในการจองซื้อหุ้นกันอย่างล้นหลาม จากนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ
ที่ผ่านมา ช่วงปี 2562-2563 มี บจ.ที่เข้าระดมทุนและเข้าคำนวณในดัชนี SET50 และ SET100 แบบ Fast track คือ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) (AWC) ที่เริ่มซื้อขายเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2562 มีมาร์เก็ตแคป ณ ราคาไอพีโอที่ 185,742 ล้านบาท ส่งผลให้หุ้นธนาคาร เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) (KKP) และ บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) (BEAUTY) ออกจากดัชนี SET50 และ SET100
นอกจากนั้น การเข้าซื้อขายครั้งแรกของบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (CRC) เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563 ด้วยมาร์เก็ตแคป ณ ราคาไอพีโอที่ 253,302 ล้านบาท ทำให้บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) (BPP) และ บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) (AAV) ออกจากดัชนี SET50 และ SET100
ขณะที่ หาก SCGP เริ่มซื้อขายในเดือนตุลาคมนี้ คาดว่า บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) (TCAP) จะออกจากดัชนี SET50 และบริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (ERW) จะออกจากดัชนี SET100
นายภราดร เตียรณปราโมทย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์(บล.) เอเชีย พลัส จำกัดเปิดเผยว่า ก่อนหุ้น SCGP จะเริ่มเข้าซื้อขาย อาจมีแรงขายหุ้นอื่นๆ จากสถาบันออกมาประมาณ 23,000 ล้านบาท เนื่องจากนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ มีระยะเวลาการจองซื้อหุ้น SCGP วันที่ 5-7 ตุลาคม 2563 ซึ่งมี 18 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ได้สิทธิจองซื้อหุ้น SCGP แบบเฉพาะเจาะจง(Cornerstone Investors) 676.53 ล้านหุ้น หรือ 23,700 ล้านบาท ทำให้ต้องมีการขายหุ้นบางส่วนออกมา เพื่อที่จะนำเงินไปจ่ายจองซื้อหุ้นดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม มองว่า การที่มีหุ้นขนาดใหญ่อย่าง SCGP เข้าตลาด ช่วยทำให้ตลาดหุ้นไทยมีสีสันและมีทางเลือกดีๆ ในการลงทุนมากขึ้น แต่การปรับพอร์ตโยกย้ายเม็ดเงินเพื่อเตรียมซื้อ SCGP ก่อนเข้าตลาด มีโอกาสทำให้หุ้นใน SET50 และหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกันผันผวน
อย่างเช่นในอดีต 1 เดือนก่อนหุ้นขนาดใหญ่เข้าซื้อขายในตลาด ส่งผลให้หุ้นใน SET50 ปรับฐาน 3- 6% และหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกันปรับฐานแรง 6-10% เริ่มจากก่อน AWC เข้าซื้อขาย 1 เดือน ดัชนี SET50 ปรับฐาน -3.6% หุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ลดลง -6.15% และก่อน CRC เข้าซื้อขาย 1 เดือน SET50 ปรับฐาน -5.86% และหุ้นในกลุ่มค้าปลีกลดลง -10.59%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
NRF เปิดจองไอพีโอ 28-30 ก.ย ราคา 4.60 บาทต่อหุ้น
"SK ” เคาะราคาขาย IPO ที่ 0.80 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อ 28 - 30 ก.ย.
ยกเครื่องบทบาท ก.ล.ต. ยุค “รื่นวดี สุวรรณมงคล”
หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,613 วันที่ 27 - 30 กันยายน พ.ศ. 2563