บสย.ทุ่ม 20,000 ล้าน ค้ำประกันเอสเอ็มอี

12 ส.ค. 2563 | 18:05 น.

บสย.ทุ่ม 20,000 ล้านบาท ค้ำประกันสินเชื่อให้กับลูกค้าเอสเอ็มอีที่ขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เผย ทำข้อตกลงกับ บยส.แล้ว 3 แห่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ บสย. เร่งทำข้อตกลงกับสถาบันการเงินที่ต้องการปล่อยกู้ช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจริงๆเพื่อช่วยให้ผ่านวิกฤติโควิด-19 ไปให้ได้ โดย บสย.ใช้เงินของตัวเองวงเงิน 20,000 ล้านบาทในการค้ำประกันสินเชื่อให้กับลูกค้าเอสเอ็มอีที่มาขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน

 

โดยขณะนี้มีสถาบันการเงิน 3 แห่งที่ได้ทำข้อตกลงกับ บสย. แล้ว คือ ธนาคารออมสิน ขอวงเงินค้ำประกัน 5,000 ล้านบาท ธนาคารไทยพาณิชย์ ขอวงเงินค้ำประกัน 2,000 ล้านบาท และธนาคารกรุงไทย ขอวงเงินค้ำประกัน 1,000 ล้านบาท ซึ่งการค้ำประกันของ บสย. ทุก 1 เท่าจะทำให้สถาบันการเงินไปปล่อยกู้ได้ 1.5 เท่า

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

บสย. อัดงบ 2.5 แสนล้านช่วย SMEs สู้โควิด-19

บสย. ค้ำฯซอฟต์โลนออมสินสูงสุดต่อราย 20 ล้านบาท

คลังโยกแสนล้าน อุ้มSMEsชายขอบ

เอสเอ็มอีไทย ถมไม่เต็ม แก้ไม่ตรงจุด

 

สำหรับวงเงินค้ำประกัน 20,000 ล้านบาทนี้ บสย. จะร่วมมือกับสถาบันการเงินที่จะดำเนินการปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับความเดือดร้อนจากการระบาดของโควิด-19 จริงๆและต้องการเงินทุนหมุนเวียนเพื่อให้ยังประคับประคองธุรกิจให้อยู่รอดต่อไปได้ 

ปัญหาที่ผ่านมาสถาบันการเงินและผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ติดกับดักสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน) และ ค่าธรรมเนียมถูก ทำให้เอสเอ็มอีส่วนมากเข้าไม่ถึงสินเชื่อ เกิดปัญหาสภาพคล่อง และในที่สุดก็มีปัญหาการดำเนินงาน เป็นหนี้เสียกับสถาบันการเงิน ทำให้ปัญหาเศรษฐกิจมากขึ้น

 

ตอนนี้ บสย. ไม่เป็นห่วงเรื่องหนี้เสียแต่เป็นห่วงหนี้ที่กำลังจะเป็นหนี้เสียที่มีอีกจำนวนหลายแสนล้านบาท หากสถาบันการเงินไม่เร่งช่วยปล่อยกู้ช่วยเอสเอ็มอี ผลสุดท้ายจะทำให้หนี้เสียของสถาบันการเงินมากขึ้นถึงเวลาที่สถาบันการเงินต้องปล่อยกู้ช่วยผู้ประกอบการ ส่วนเอสเอ็มอีก็ต้องปรับตัวเองให้มีประสิทธิภาพ เพราะหากไม่ปรับตัวเองให้ได้สินเชื่อไม่ว่าดอกเบี้ยจะแพงหรือถูก สุดท้ายก็ไปไม่รอดอยู่ดี นายรักษ์ ระบุ

 

นอกจากนี้ บสย. ยังมีวงเงินค้ำประกันของโครงการค้ำประกันสินเชื่อเอสเอ็มอีทวีค่า (PGS8) เหลืออีก 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะรอนายปรีดี ดาวฉาย รมว.การคลัง คนใหม่เห็นชอบเรื่องการปรับเงื่อนไขการค้ำประกันเหมือนกับวงเงินค้ำประกัน 20,000 ล้านบาท ที่ บสย. ดำเนินการอยู่ เพราะของเดิมเป็นการค้ำประกันหมู่ มีสถาบันการเงินจำนวนมากได้วงเงินค้ำประกันไปแล้ว แต่ไม่ยอมปล่อยสินเชื่อทำให้ไม่เกิดประโยชน์

 

สำหรับ PGS9 จะต้องรองบประมาณปี 2564 ผ่านก่อนจึงเสนอให้ รมว.การคลัง เห็นชอบว่า กำหนดวงเงินดำเนินการเท่าไร เพราะการดำเนินการต้องใช้เงินงบประมาณชดเชยให้กับ บสย.