ตามที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เสนอ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (7เมษายน) เพื่อพิจารณาออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้ธปท. ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) สำหรับกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจเอสเอ็มอี นั้น
แหล่งข่าวเปิดเผยฐานเศรษฐกิจว่า ธปท. ได้เสนอ ออกพ.ร.ก.เพื่อให้ธปท.ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำหรือซอฟต์โลน วงเงิน 500,000 ล้านบาท เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์ พิจารณาวงเงินสินเชื่อหมุนเวียน หรือสินเชื่อระยะยาว อายุการปล่อยกู้ไม่เกิน 2 ปี สำหรับผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี รายกลางและรายย่อย ซึ่งมียอดสินเชื่อรวมทั้งกลุ่มไม่เกิน 500 ล้านบาท และจำกัดเฉพาะบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) หรือในตลาดใหม่ (MAI) คาดว่าจะมีจำนวนประมาณ 1.7 ล้านราย
ส่วนหลักเกณฑ์ในการพิจารณาปล่อยสินเชื่อ soft loan ครั้งนี้ กำหนดเพดานปล่อยกู้ใหม่ไม่เกิน 20% ของยอดสินเชื่อคงค้าง ยกตัวอย่างวงเงินกู้ของกลุ่มบริษัทเดิมไม่เกิน 500 ล้านบาท แต่มีการเบิกใช้วงเงินกู้ไปแล้ว 100 ล้านบาทก็จะได้รับSoft Loan 20% ของยอดสินเชื่อคงค้างที่ คำนวณจาก 400 ล้านบาท
ภายใต้เงื่อนไขรัฐบาลจ่ายดอกเบี้ยให้เป็นเวลา 6 เดือน โดยที่ผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอี จะได้รับการปลอดดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 6 เดือน ที่เหลือจึงคิดอัตราดอกเบี้ย ตามที่แต่ละธนาคารกำหนด
นอกจากเสนอครม.พิจารณา soft loan ให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีแล้ว รัฐบาล ได้เสนอออก พรก.หรือพระราชกำหนด เพื่อพักชำระหนี้ (Automatic Debt Holiday)เงินต้นและดอกเบี้ยโดยอัตโนมัติ แต่อาจจะมีดอกเบี้ยค้างรับ ที่จะต้องชำระเจ้าหนี้ในอนาคต โดยคำนึงถึงมาตรการเว้นระยะห่าง ของการแพร่ระบาด ของไวรัสและรักษาสุขภาพของประชาชนโดยที่ลูกหนี้ไม่ต้องเดินทางไปทำธุรกรรม ที่ธนาคาร
"เบื้องต้น คิดว่าธปท จะปล่อยกู้ซอฟต์โลน แต่แบงก์ในอัตราดอกเบี้ย 0.01% คิดดอกเบี้ย 2% ต่อปีเช่นเดียวกับซอฟต์โลนธนาคารออมสิน โดยแบงก์สามารถนำไปปล่อยต่อกับผู้ประกอบการ เอสเอ็มอีซึ่งยังไม่เป็นหนี้เอ็นพีแอล ต้องเป็นลูกหนี้ใน Stage1 และ 2 เท่านั่น"