เปิดประเทศ-ลดวันกักตัวเสี่ยงโควิดระบาดซ้ำซากต่อเนื่อง

21 มี.ค. 2564 | 08:10 น.

เปิดประเทศ-ลดวันกักตัว หมอธีระเตือนเสี่ยงโควิดระบาดซ้ำซากต่อเนื่อง เหตุสถานการณ์หลายประเทศยังรุนแรง

รายงานข่าวระบุว่า รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความว่า สถานการณ์ทั่วโลก 21 มีนาคม 2564...

แทบทุกทวีปกำลังเข้าสู่"การระบาดซ้ำ" โดยมีจำนวนประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ยอดรวมทะลุ 123 ล้านไปแล้ว บราซิลกำลังจะมียอดเกิน 12 ล้าน ตุรกีกำลังจะแตะ 3 ล้าน

เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 568,618 คน รวมแล้วตอนนี้ 123,404,656 คน ตายเพิ่มอีก 9,106 คน ยอดตายรวม 2,720,991 คน

อเมริกา เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 59,330 คน รวม 30,477,631 คน ตายเพิ่มอีก 910 คน ยอดตายรวม 554,794 คน

บราซิล ติดเพิ่ม 79,069 คน รวม 11,950,459 คน วันเดียวตายเพิ่มสูงถึง 2,438 คน มากที่สุดในโลก ขณะนี้ยอดเสียชีวิตรวม 292,752 คน

อินเดีย ติดเพิ่ม 43,815 คน รวม 11,598,710 คน

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์

รัสเซีย ติดเพิ่ม 9,632 คน รวม 4,447,570 คน

สหราชอาณาจักร ติดเพิ่มอีก 5,587 คน รวม 4,291,271 คน

อันดับ 6-10 เป็น ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน ตุรกี และเยอรมัน ส่วนใหญ่ติดกันหลักพันถึงหลายหมื่นต่อวัน

แถบอเมริกาใต้ ยุโรป เอเชีย อย่างโคลอมเบีย เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ ยูเครน แคนาดา รวมถึงบังคลาเทศ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ยังติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น

แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย แนวโน้มการติดเชื้อเพิ่มขึ้นชัดเจน ส่วนใหญ่หลักร้อยถึงพันกว่า

ในขณะที่แถบตะวันออกกลาง ประเทศส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักพัน

เกาหลีใต้ และไทย ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนสิงคโปร์ กัมพูชา และออสเตรเลีย ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่จีน ฮ่องกง และเวียดนาม ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ

...วิเคราะห์ภาพการระบาดของโลกตอนนี้ คงต้องบอกว่าเป็นช่วงเวลาของการระบาดซ้ำอย่างพร้อมเพรียง...

ทั่วโลกทั้งประเทศที่อยู่ท็อปเทนอย่าง บราซิล อินเดีย ฝรั่งเศส อิตาลี ตุรกี เยอรมัน ต่างกำลังประสบปัญหาระบาดซ้ำรุนแรงขึ้นมาก

ประเทศอื่นๆ ในทุกทวีปก็เช่นกัน ทั้งทวีปเอเชีย ยูเรเชีย ยุโรป อเมริกาเหนือและใต้ รวมถึงบางประเทศในทวีปแอฟริกา

ส่วนตัวแล้วเชื่อว่า หากมีการเปิดประเทศเพื่อให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างกัน จะโดยใช้วัคซีนพาสปอร์ต และ/หรือลดวันกักตัวก็ตาม จะมีโอกาสเกิดการระบาดซ้ำซากกันไปอย่างต่อเนื่อง เพราะสถานการณ์แต่ละประเทศนั้นยังระบาดกันรุนแรง สายพันธุ์ไวรัสที่กลายพันธุ์ก็มีความต่างกัน รวมถึงชนิดของวัคซีนที่ใช้ก็มีสรรพคุณที่แตกต่างกันไป

ยิ่งหากประเทศใดมีการใช้วัคซีนที่มีประสิทธิภาพจำกัด ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ และมีสรรพคุณในการป้องกันการเจ็บป่วยน้อย รวมถึงไม่สามารถป้องกันไวรัสที่กลายพันธุ์ต่างๆ ได้ จะประสบกับหายนะการระบาดอย่างหนักหน่วงได้

ล่าสุดมีข่าวสำคัญสองเรื่องคือ นายกรัฐมนตรีของปากีสถานติดเชื้อโควิด-19 แม้จะเพิ่งได้รับวัคซีนไปเมื่อสองวันก่อน ซึ่งหากประเมินตามหลักวิชาการแพทย์ คาดว่าท่านคงได้รับเชื้อมาก่อนหน้าที่จะได้รับการฉีดวัคซีน และวัคซีนที่เพิ่งได้รับนั้นก็ยังไม่สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ทัน เพราะโดยปกติแล้วต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่าภูมิจะค่อยๆ ขึ้นมา คงต้องเป็นกำลังใจให้ท่านปลอดภัย

อีกเรื่องคือ เดนมาร์กรายงานมีผู้ที่เสียชีวิตเพิ่มอีกหนึ่งคน และอีกหนึ่งคนก็ป่วยระยะวิกฤติจากภาวะลิ่มเลือดอุดตันและเลือดออกในสมอง หลังได้รับวัคซีนเดิมที่เคยเพิ่งเป็นข่าวหยุดการฉีดในประเทศกลุ่มยุโรป อย่างไรก็ตามทางการเดนมาร์กกำลังทำการสืบสวนรายละเอียดเพิ่มเติมว่าจะมีความสัมพันธ์กับวัคซีนหรือไม่ คงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด หวังใจว่าจะดีขึ้นโดยเร็ว

สำหรับเมืองไทยเรา สถานการณ์ระบาดยังกระจายไปอย่างต่อเนื่อง ขอให้พวกเราป้องกันตัวอย่างเคร่งครัดนะครับ หากติดเชื้อต่อวันหลักร้อยไปเรื่อยๆ เช่นนี้ ธรรมชาติการระบาดของทั่วโลกชี้ให้เราเห็นว่าจะคงที่ได้ราว 7 สัปดาห์บวกลบนิดหน่อย แล้วจะมีโอกาสระบาดซ้ำรุนแรงเกิดขึ้นได้ แต่หากเราไม่ป้องกันอย่างเคร่งครัด การระบาดซ้ำย่อมเร็วขึ้นกว่าที่คาดการณ์ได้

ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ ยืนยันว่า ไม่ใช่เวลาเหยียบคันเร่งด้านการท่องเที่ยวต่างชาติครับ ตราบใดที่ระบบการตรวจคัดกรองยังจำกัด การระบาดภายในประเทศยังมีอย่างต่อเนื่อง ตัดวงจรระบาดไม่ได้ แถมวัคซีนที่มีก็มีน้อยชนิด ปริมาณน้อย ไม่ครอบคลุม และสรรพคุณก็จำกัดกว่าวัคซีนอื่นๆ ที่ประเทศพัฒนาแล้วมีใช้กัน

ใส่หน้ากากเสมอ ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างคนอื่นหนึ่งเมตร ลดละเลี่ยงการเดินทางตะลอนท่องเที่ยวพบปะสังสรรค์ เลี่ยงที่แออัดที่ชุมนุมที่อโคจร และคอยสังเกตอาการตนเองและครอบครัว หากไม่สบาย ควรหยุดเรียนหยุดงาน แล้วรีบไปตรวจรักษา

ด้วยรักและปรารถนาดีเสมอ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :