โควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกาใต้กดประสิทธิภาพวัคซีนเหลือเพียง 10%

21 มี.ค. 2564 | 07:25 น.

โควิด-19 หมอยงชี้สายพันธุ์แอฟริกาใต้กดประสิทธิภาพวัคซีนเหลือเพียง 10%

รายงานข่าวระบุว่า ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ (หมอยง) หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสเฟซบุ๊ก (Yong Poovorawan) ภายใต้หัวข้อ โควิด-19 วัคซีน กับไวรัสกลายพันธุ์

              ในที่สุดข่าวที่เคยได้ยินก็ได้ถูกเผยแพร่ในวารสารชั้นนำของโลก New England Journal of Medicine ถึงการศึกษาประสิทธิภาพของวัคซีน AstraZeneca กับสายพันธุ์แอฟริกาใต้ ที่มีการกลายพันธุ์ในตำแหน่ง E484K ทำให้คุณสมบัติในการป้องกันโรคลดลงก็เป็นความจริง

              จากการศึกษาในแอฟริกาใต้ในกลุ่มที่ได้รับวัคซีนและกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีน แบบเปรียบเทียบกัน 1 ต่อ 1 กลุ่มละประมาณ 1,000 คน พบว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์และถ้าจำเพาะต่อสายพันธุ์แอฟริกาใต้ ประสิทธิภาพจะเหลือเพียง 10 เปอร์เซ็นต์

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ

              ตามที่เคยเป็นข่าวมาก่อนหน้านี้ แสดงให้เห็นว่าการกลายพันธุ์สายพันธุ์แอฟริกาใต้ และทำให้เข้าใจว่าสายพันธุ์ไหนก็ตามที่มีการเปลี่ยนแปลงรหัสพันธุกรรมในตำแหน่ง 484 ซึ่งเป็นตำแหน่งในระบบของแอนติบอดี ป้องกันโรค ทำให้ประสิทธิภาพลดลงจนเรียกว่าป้องกันไม่ได้

การศึกษานี้ จึงเป็นเหตุให้แอฟริกาใต้ และเชื่อว่าอีกหลายประเทศในแอฟริกาไม่สามารถใช้วัคซีนนี้ได้

              ขณะนี้ยังเป็นที่โชคดีสำหรับประเทศไทย การระบาดยังไม่พบสายพันธุ์นี้ เมื่อเราฉีดวัคซีนมากขึ้นและถ้าเปิดประเทศ วัคซีนไม่สามารถจะป้องกันสายพันธุ์กลายพันธุ์แอฟริกาใต้ ทำให้น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะการจะลดมาตรการการกักกันผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ และการตรวจหาสายพันธุ์จะต้องทำได้อย่างรวดเร็ว

              ขณะนี้ที่ศูนย์ทำวิจัยการวินิจฉัยสายพันธุ์ 484K ให้ได้อย่างรวดเร็ว วางมาตรการในการป้องกันไม่ให้สายพันธุ์นี้เข้าประเทศไทยได้

              รายละเอียดประสิทธิผลของวัคซีนสามารถอ่านได้จากวารสาร NEJM