หมอเฉลิมชัยเตือนไม่มีวัคซีนยี่ห้อใดป้องกันเชื้อโควิด-19 ได้ 100%

25 ก.พ. 2564 | 09:20 น.

หมอเฉลิมชัยเตือนไม่มีวัคซีนยี่ห้อใดป้องกันเชื้อโควิด-19 ได้ 100% ส่วนใหญ่แค่ป้องกันติดเชื้อแบบแสดงอาการ

น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" ระบุข้อความว่า จากที่ประเทศไทยได้รับทราบข่าวดีเมื่อวานนี้ (24 กุมภาพันธ์ 2564) มีวัคซีนเข้ามาจากสองบริษัทคือ Sinovac ของจีน และ AstraZeneca ของอังกฤษ รวมกว่า 317,000 เข็ม และจะเริ่มฉีดให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยงใน 13 จังหวัดปลายเดือนนี้ ดังที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น

              มีสิ่งที่ต้องทำความเข้าใจเพิ่มเติมคือ การฉีดวัคซีนไม่ว่าของยี่ห้อใดก็ตาม

1)ไม่สามารถป้องกันการเกิดโรคได้ 100%

2) ประสิทธิภาพที่ไม่ถึง 100 % ดังกล่าว ก็เป็นการป้องกันการติดเชื้อที่แสดงอาการเป็นส่วนใหญ่ ป้องกันการติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการได้บางส่วนเท่านั้น

3) ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว อาจจะมีระดับภูมิต้านทานขึ้นสูงไม่มากพอที่จะป้องกันได้ แม้ฉีดเข็มสองแล้ว ต้องทิ้งระยะเวลาไปอีก 7-14 วัน เป็นอย่างน้อย

              ด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงต้องระมัดระวังในเรื่องความเข้าใจว่า ฉีดวัคซีนแล้ว ไม่ได้แปลว่าทำทุกอย่างได้ตามสบายใจเสียทีเดียว

              ขณะนี้มีข้อมูลที่ชัดเจนจากประเทศโรมาเนียว่า เมื่อได้เริ่มฉีดวัคซีนไปเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2563 มีผู้ฉีดวัคซีนเข็มหนึ่งแล้ว 819,446 คน และครบสองเข็มจำนวน 589,000 คน

              ปรากฏว่าพบผู้ติดเชื้อในกลุ่มผู้ที่ฉีดเพียงเข็มเดียวถึง 3969 คนคิดเป็น 0.49%

              และแม้จะฉีดครบสองเข็มแล้ว ก็ยังมีผู้ติดเชื้ออีก 446 คน คิดเป็น 0.08%

โดยผู้ที่ติดเชื้อส่วนใหญ่ จะเริ่มติดเชื้อหลังจากฉีดวัคซีนเข็มสองไปแล้วประมาณ 4 วัน ทางการของโรมาเนีย จึงรีบเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนโรมาเนียเข้าใจตรงกันว่า การฉีดวัคซีนเข็มหนึ่งแล้ว ยังไม่เพียงพอที่จะป้องกันโรคได้ และการฉีดวัคซีนเข็มสองแล้ว ถ้ายังไม่ครบ 14 วัน ก็อาจจะยังป้องกันโรคได้ไม่ดีนัก

              ที่สำคัญกว่านั้น แม้ฉีดวัคซีนครบสองเข็ม และเลย 14 วันแล้ว ก็ยังมีโอกาสติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการได้ด้วย ซึ่งจะแพร่เชื้อให้กับคนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนอีกด้วย จึงต้องเข้าใจให้ตรงกันว่า ฉีดวัคซีนแล้วยังต้องป้องกันตัวเหมือนเดิม คือใส่หน้ากากอนามัย  เว้นระยะห่างทางสังคม และล้างมือบ่อยบ่อย เพื่อเป็นความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่ให้เราเป็นพาหะแพร่เชื้อให้คนอื่น

              ส่วนประโยชน์ที่ได้คือ ชัดเจนว่า ผู้ที่รับวัคซีน จะไม่ติดเชื้อที่มีอาการรุนแรงจนต้องเข้านอนโรงพยาบาล  ลดภาระของระบบสุขภาพ และลดอัตราการเสียชีวิต ทำนองเดียวกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ที่ฉีดแล้ว ป้องกันไม่ให้คนติดเชื้อได้เป็นส่วนใหญ่ แต่ยังมีส่วนน้อยที่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่แต่จะมีอาการไม่รุนแรงมากนัก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :