ลำปางพบผู้"ติดเชื้อโควิด"ระลอกใหม่ 1 ราย

29 ธ.ค. 2563 | 09:06 น.

ต้านไม่อยู่!จังหวัดลำปาง ยืนยันมีผู้"ติดเชื้อโควิด-19" จำนวน 1 ราย พบเดินทางมาจากระยอง ด้าน"ผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์"งัดมาตรการคุมเข้มหวังสกัดการแพร่ระบาดของโรค

วันที่ 29 ธันวาคม 2563 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) จังหวัดลำปาง ประกาศยืนยันพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ลำปาง รายใหม่จำนวน 1 ราย ซึ่งขณะนี้ได้เข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล โดยในเบื้องต้น มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 23 ราย ซึ่งเป็นชาวลำปาง 20 ราย ระยอง 2 ราย และเชียงใหม่ 1 ราย  มีสถานที่เสี่ยงจำนวน 16  แห่ง


สำหรับรายละเอียดของผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายนี้เป็น เป็นชายไทย อายุ 33 ปี  เดินทางมาจากจังหวัดระยองโดยเครื่องบิน จากสนามบินอู่ตะเภา สายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบิน FD 103  เวลา 18.45  น. ถึงสนามบินเชียงใหม่เวลา 21.00 น. พักค้างคืนที่เชียงใหม่ 1 คืน เดินทางมาถึงจังหวัดลำปางวันที่ 26  ธันวาคม โดยเช่ารถขับมาเพียงคนเดียว เข้าพักที่บ้านพักในตำบลต้นธงชัย  และวันที่ 27  ธันวาคม ร่วมงานแต่งงานเพื่อนที่บ้านห้วยทราย ตำบลต้นธงชัย ทั้งช่วงเช้าและเย็น


โดยผู้ติดเชื้อโควิดรายนี้เริ่มมีอาการไอ เจ็บคอ มีเสมหะ ปวดศรีษะ มาตั้งแต่วันที่ 25  ธันวาคม 2563  แต่ไม่ได้ไปรับการรักษา ซื้อยาทานเอง ทราบข่าวว่าเพื่อนที่จังหวัดระยองป่วยจึงมาขอตรวจที่โรงพยาบาลเพื่อยืนยันการติดเชื้อในวันที่ 28  ธันวาคม  2563  และผลการตรวจยืนยันว่าติดเชื้อ
 

นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร  ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า จังหวัดลำปางได้ดำเนินมาตรการการในเบื้องต้น ประกอบไปด้วย  ข้อที่ 1 .ทีมสอบสวนโรคได้ทำการสำรวจค้นหา และติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย จำแนกกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงและกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำ


โดยผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อทั้งหมด 23 ราย ทุกรายได้ตรวจหาเชื้อโควิด 19 ผลการตรวจ ไม่พบเชื้อ โดยจะได้รับการตรวจยืนยันอย่างต่อเนื่องในวันที่ 5, 9 และ 14  หลังจากวันที่ได้รับการตรวจหาเชื้อครั้งแรก ทั้งนี้ ให้แยกกักตัวที่บ้านอย่างเคร่งครัดเพื่อสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน (Home Quarantine)


สำหรับผู้สัมผัสซึ่งมีความเสี่ยงต่ำ ให้เฝ้าสังเกตอาการตัวเองเป็นเวลา 14 วัน  (Self Monitoring)


นอกจากนี้ได้แจ้งให้สายการบิน พร้อมทั้ง ทีมสอบสวนโรคที่จังหวัดเชียงใหม่รับทราบเพื่อดำเนินการควบคุมโรคในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ต่อไป


2.ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เทศบาลตำบล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 


3. ประชาสัมพันธ์เสียงตามสายในหมู่บ้านในเรื่อง“การเฝ้าระวังและการปฏิบัติดูแลตนเอง” เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แนะนำผู้สัมผัสให้ป้องกันตนเองและผู้ใกล้ชิด โดยสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา  ล้างมือบ่อยๆด้วยน้ำกับสบู่ หรือ แอลกอฮอล์เจล และหลีกเลี่ยงการไปสถานที่สาธารณะ/ชุมชน และสังเกตอาการตัวเอง


หากมีอุณหภูมิร่างกายตั้งแต่ 37.5  องศาเซลเซียสขึ้นไป ร่วมกับมีอาการทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหนึ่ง (ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หายใจเหนื่อย หรือหายใจลำบาก) ให้รีบพบเจ้าหน้าที่เพื่อเข้ารับการตรวจทันที


4. ติดตามเยี่ยมบ้านผู้ป่วยทุกวันร่วมกับค้นหาผู้ที่มีอาการป่วยเพิ่มเติมในชุมชนโดยภาคีเครือข่าย ผู้นำชุมชน ฝ่ายปกครอง อาสาสมัครสาธารณสุข โรงพยาบาล สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ
 

นอกจากนั้น จังหวัดลำปาง ได้กำหนดมาตรการป้องกันและควบคุมโรค ดังนี้ คัดกรองโควิด-19 ที่ด่านอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ , บันทึกข้อมูลผู้ที่เดินทางเข้าจังหวัดลำปาง ที่สถานีขนส่ง สนามบิน และสถานีรถไฟ , ให้ร้านค้า/สถานประกอบการ/สถานบริการ ต้องติดตั้งแอปพลิเคชั่นไทยชนะทุกแห่ง และต้องมีการคัดกรองอย่างเข้มงวด

 

นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร  ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดลำปาง

 

ผู้ไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ห้ามเข้าสถานที่ราชการ หน่วยงานเอกชน ศาสนสถาน และสถานที่สาธารณะ , การจัดงานที่มีคนรวมกันเป็นจำนวนมาก ให้แจ้ง ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคระดับอำเภอ (ศปก.อำเภอ) และตรวจสอบกิจกรรมตามมาตรการ โดยต้องจำกัดจำนวนคน (กำหนดพื้นที่ 4 ตารางเมตร/คน) ดำเนินการตามมาตรการอย่างเข้มในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัด เช่น วัดสำคัญ ตลาดนัด ตลาดของฝาก ตลาดเซรามิก และอุทยานแห่งชาติ เป็นต้น

 

นอกจากนี้ จังหวัดลำปางมีแนวทางตรวจสอบ/ประเมินความเสี่ยงและการปฏิบัติในการป้องกันเฝ้าระวังโรค COVID-19  กรณีมีผู้เดินทางไป หรือมาจากพื้นที่มีรายงานผู้ป่วยติดเชื้อระลอกใหม่ ดังนี้


1. บุคคลที่เดินทางไป หรือมาจาก ทุกพื้นที่ในจังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) และ จังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุม(สีส้ม)ให้พบเจ้าหน้าที่เพื่อรับการประเมินความเสี่ยงที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน


2. บุคคลที่เดินทางไป หรือมาจาก สถานที่ที่พบผู้ป่วยยืนยันในจังหวัดที่เป็นพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) ให้พบเจ้าหน้าที่เพื่อรับการประเมินความเสี่ยงที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน สำหรับผู้ที่มาจากสถานที่อื่นที่ไม่ได้ระบุว่าพบผู้ป่วยยืนยัน


3. บุคคลที่เดินทางไป หรือมาจากจังหวัดที่เป็นพื้นที่เฝ้าระวังซึ่งยังไม่พบผู้ติดเชื้อ (สีเขียว) ถือเป็นผู้มีความเสี่ยงต่ำ ให้แจ้งผู้ใหญ่บ้าน /กำนัน/อสม.ในพื้นที่รับทราบด้วย และให้สังเกตเฝ้าระวังตนเอง พร้อมทั้งปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด

 

ทั้งนี้ความหมายของกลุ่มเสี่ยง และแนวทางดำเนินการสำหรับกรณีผู้ติดเชื้อรายนี้ ดังนี้


กลุ่มเสี่ยงสูง (High Risk) หมายถึง


1) ผู้ที่อยู่ใกล้ผู้ป่วยยืนยันในรัศมี 2 เมตร ในช่วงเวลามากกว่า 5 นาที และไม่ได้สวมหน้ากากป้องกัน

 

2) ผู้ร่วมงานแต่งงาน ที่นั่งโต๊ะ รอบๆโต๊ะที่ผู้ป่วยนั่ง ห่างไม่เกิน 2 เมตร


3) ผู้ที่สัมผัสและผู้ที่อยู่บ้านใกล้เคียง หรือผู้ที่สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน

ผู้ใดเข้าเกณฑ์ในข้างต้นต้องได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด 19 และแยกกักตัวที่บ้านอย่างเคร่งครัดเพื่อสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน (Home Quarantine)โดยจะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขติดตามทุกวัน

 

กลุ่มเสี่ยงต่ำ (Low Risk) หมายถึง

 

1) ผู้สัมผัสในงานแต่งงาน ระยะห่างกันมากกว่า 2 เมตร


2) ผู้อยู่ใกล้ผู้ป่วยยืนยันในรัศมี 2เมตร นานไม่ถึง 5 นาที และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาผู้ใดเข้าเกณฑ์ในข้างต้นต้องให้เฝ้าสังเกตอาการตัวเองเป็นเวลา 14 วัน (Self Monitoring) โดยจะมีอาสาสมัครสาธารณสุขติดตามทุกวัน

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

รวมข่าว "โควิด-19" วันที่ 29 ธ.ค.63 แบบอัพเดทล่าสุด

โควิด-19 ลามไม่หยุด ติดเชื้อเพิ่มเป็น 45 จังหวัด

 

ยอดโควิด 29 ธ.ค.63 ทั่วโลกผู้ป่วยเพิ่ม 4.35 แสนราย รวม 81.60 ล้านราย

"หมอธีระ" ชี้ สิ้นปีนี้หากโควิดในไทยยังไม่ดีขึ้นจะมีผู้ติดเชื้อใหม่ 3.3หมื่นคน

"หมอยง"ชี้ยังไม่พบโควิดสายพันธุ์ของอังกฤษในไทย