รัฐบาลทำได้ตามแผน เศรษฐกิจไทยเดินต่อ

14 ม.ค. 2564 | 05:30 น.

รัฐบาลทำได้ตามแผน เศรษฐกิจไทยเดินต่อ : บทบรรณาธิการ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3644 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 14-16 ม.ค.2564

 

ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ ที่อัตราของผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มียอดสะสมเกินกว่า 1 หมื่นคน มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มสูงขึ้นกว่าการระบาดในรอบแรกกว่าเท่าตัว กระจายตัวไปตามจังหวัดต่างๆ กว่า 56 จังหวัด 

มาตรการต่างๆ ที่ออกมารัฐบาลจะเน้นไปที่การป้องกันควบคุมการระบาดอย่างเข้มข้น ล็อกดาวน์เป็นบางพื้นที่ ที่คาดว่าจะมีไปสิ้นสุดในเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับทางเศรษฐกิจ และรอความหวังที่จะฉีดวัคซีนล็อตแรกให้ได้ภายในปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2564 เพื่อชะลอการแพร่ระบาดของผู้ติดเชื้อ 

หลายสำนักออกมาคาดการณ์ตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจหรือจีดีพีของประเทศ ไปในทิศทางเดียวว่าปีนี้จะเติบโตอยู่ราว 2.3-2.5 % ศูนย์วิจัยกรุงศรี ประเมินว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่อาจแตะระดับสูงสุดในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์และมีแนวโน้มปรับลดลงในช่วงครึ่งหลังของเดือน แบบจำลองที่จัดทำขึ้นมาชี้ให้เห็นว่า ภายใต้การล็อกดาวน์บางส่วนเป็นเวลา 2 เดือน (ม.ค.-ก.พ.64) จะส่งผลต่ออัตราการเติบโตของจีดีพีปีนี้จะลดลง 0.8% เหลือ 2.5% โดยมีมาตรการต่างๆ จากภาครัฐเข้ามาช่วยหนุน
 

ภายใต้สมมติฐาน ของจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศ ที่มีแนวโน้มลดลงในช่วงครึ่งหลังของเดือนกุมภาพันธ์ 254 และมาตรการล็อกดาวน์บางพื้นที่เป็นเวลา 2 เดือน รวมทั้งมีการใช้วงเงิน 2 แสนล้านบาท เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบในไตรมาสแรกของปีนี้ และเพื่อฟื้นฟูกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ที่สำคัญการฉีดวัคซีนเป็นไปตามเป้าหมายที่จะเริ่มในเดือนกุมภาพันธ์นี้ และจะครอบคลุมคนไทยได้ครึ่งหนึ่งภายในสิ้นปีนี้

อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ว่า GDP ในไตรมาสแรกปีนี้ จะยังติดลบ 4 % เมื่อเทียบกับปีก่อน ลดลงจากเดิมที่เคยคาดไว้ติดลบ 2.2%  ซึ่งการระบาดระลอกใหม่นี้จะรุนแรงน้อยกว่าในรอบแรก ที่ GDP ไตรมาสที่ 2 ปีก่อน ติดลบถึง 12.1 % 

ศูนย์วิจัยกรุงศรี มองว่า ในปี 2564 การบริโภคภาคเอกชนจะขยายตัวเหลือ 1.8% จาก 2.5% จากการใช้จ่ายของผู้บริโภคในไตรมาสแรกหดตัวลงแรง ขณะที่อัตราการว่างงานและหนี้ภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นจะจำกัดอัตราการเติบโตของภาคการบริโภค
 

การส่งออก คาดว่าจะเติบโตได้ 3.8% จากเดิมคาด 4.5% การลงทุนภาคเอกชนคาดว่าขยายตัว 2.9% ลดลงจากเดิมคาด 3.2% คาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ 4.0 ล้านคน เทียบกับ 6.7 ล้านคนในปี 2563

จากตัวเลขและปัจจัยดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่า หากรัฐบาลสามารถดำเนินงานได้ตามเป้าหมาย ก็เชื่อว่าการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปีนี้จะยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ไม่ชะงักเหมือนกับปีที่ผ่านมา ซึ่งการออกมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบของรัฐบาลที่รวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็น การลดภาระค่านํ้าและค่าไฟฟ้า 10% เป็นเวลา 2 เดือน การพิจารณาวงเงินเยียวยา 3,500 บาทเป็นเวลา 2 เดือน เป็นการช่วยลดภาระประชาชน และช่วยเพิ่มการบริโภคของประชาชน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่งด้วย