สินบน 20 ล้าน กรรมติดจรวด ‘จึงรุ่งเรืองกิจ’

08 ธ.ค. 2563 | 11:45 น.

สินบน 20 ล้าน กรรมติดจรวด ‘จึงรุ่งเรืองกิจ’ : คอลัมน์ห้ามเขียน ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3634 หน้า 12 ระหว่างวันที่ 10-12 ธ.ค.2563 โดย...พรานบุญ

 

ป่าคอนกรีต ยันโรงงานสแปร์พาร์ทอื้ออึงกันทั่วประเทศ จนกลายเป็นพายุเฮอริเคนที่พร้อมจะถล่มคนในตระกูล “จึงรุ่งเรืองกิจ” ให้พังพาบลงได้อย่างง่ายดาย
 

นังบ่างผู้ชอบสอดส่ายหาข่าวตามท้องที่ต่างๆยืนยันออกมาว่าการที่ “สกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ” น้องชายร่วมท้องมารดาของ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ประธานคณะก้าวหน้า เข้าไปพัวพันกับการจ่ายสินบนให้เจ้าพนักงานของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เพื่อให้ได้สิทธิ์ในการเช่าที่ดินบริเวณชิดลมมาบริหาร 3 ครั้ง รวม 20 ล้านบาท โดยมีสัญญาว่าถ้าทำสำเร็จจะยอมจ่ายเงิน “under the Table” ให้ก้อนโตถึง 500 ล้านบาทนั้น อาจทำให้เรื่องที่ปกปิดกันกลายเป็นเรื่องที่เปิดโปง และอาจลากใครต่อใครมากินข้าวแดงในตะแรงแกงของประเทศได้
 

หลังจากศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาลงโทษจำคุก นายประสิทธิ อภัยพลชาญ อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และ นายสุรกิจ ตั้งวิทูวนิช จำเลย 2 คน คนละ 6 ปี แต่จำเลยทั้ง 2 รับสารภาพจึงลดโทษให้เหลือจำคุกคนละ 3 ปี ในคดีที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีปราบปราบการทุจริต 4 เป็นโจทก์ฟ้องในคดีปลอมเอกสารสำนักงานทรัพย์สินฯ และกรณีรับเงินสินบนจากสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
 

นังบ่างบอกว่า บริษัทนี้เป็นของตระกูล เดิมชื่อ บริษัท อีสเทิร์นฮิลล์กอล์ฟแอนด์คันทรี่คลับ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 17 ม.ค.2548 ทุน 100 ล้านบาท ประกอบธุรกิจสถานออกกำลังกายและขายอุปกรณ์กีฬา เลขที่ 99/1 หมู่ที่ 5 ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี มี นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นกรรมการผู้ก่อตั้ง น.ส.ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ น.ส.รุจิรพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ร่วมถือหุ้นและเป็นกรรมการ
 

กระทั่ง 29 มี.ค. 2550 เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ไทยซัมมิท พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
 

9 ส.ค. 2550 ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 900 ล้านบาท นายธนาธร เข้ามาถือหุ้น จำนวน 900,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาทจนถึง 30 เม.ย.2560
 

จนวันที่ 23 ม.ค. 2554 เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด แจ้งวัตถุประสงค์ประกอบอสังหาริมทรัพย์ โครงการแรกทำบนที่ดินของนางสมพร ที่ซื้อไว้ย่านบางนา ใกล้ๆ ออฟฟิตนังบ่างนี่แหละ
 

เป็นบริษัท เรียลแอสเสทฯ ที่มีทุนจดทะเบียน 900 ล้านบาท มี นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้เป็นมารดา ถือหุ้น 2,520,000 หุ้น น.ส.ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้เป็นพี่สาวถือหุ้น 1,620,000 หุ้น

นางรุจิรพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ น้องสาวถือหุ้น 1,620,000 หุ้น นายสกุลธร ถือหุ้น 1,620,000 หุ้น นายบดินทร์ธร จึงรุ่งรืองกิจ น้องชายคนสุดท้องถือหุ้น 1,620,000 หุ้น
 

บริษัทเรียลแอสเสทฯ นั้น เป็นเจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์ในหลายโครงการ ไล่จาก 1. คอนโด LAVIQ สุขุมวิท 57 คอนโดหรูใจกลางสุขุมวิท ราคาเริ่มต้น 9.9 ล้านบาท, 2.โครงการบ้านเดี่ยว VIRANYA วงแหวน-อ่อนนุช ราคาเริ่ม 6.69 ล้านบาท
 

3.โครงการคอนโดมิเนียม AESTIQ THONGLOR ย่านทองหล่อ ระดับ Ultimate Luxury คอนโดมิเนียมสุดหรูราคาเริ่มต้น 9.49 ล้านบาท  4.โครงการบ้าน SENSE SAIMAI 56 ย่านสายไหม 56 ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ใกล้วงแหวนรอบนอก ราคาเริ่มต้น  4.49 ล้านบาท
 

5.โครงการคอนโดมิเนี่ยม THE STAGE ย่านเตาปูน-อินเตอร์เชนจ์ ใกล้รถไฟฟ้า 2 สาย ราคาเริ่มต้น 3.19 ล้านบาท 6.โครงการทาวน์โฮม PLEX RESIDENCE ทาวน์โฮม 3 ชั้น ใจกลางเมืองย่านเกษตร-นวมินทร์ พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม.ราคาเริ่มต้น  5.29 ล้านบาท
 

นังบ่างไปขุดงบการเงินมาพบว่า งบการเงินปี 2560 รายได้ 1,792 ล้านบาท กำไรสุทธิ 151 ล้านบาท งบการเงินรอบปี 2561 รายได้ 2,171 ล้านบาท กำไรสุทธิ 293 ล้านบาท
 

ส่วนงบการเงินล่าสุดงวด 31 ธ.ค. 2562 มีรายได้รวม 1,745 ล้านบาท กำไรสุทธิ 151 ล้านบาท สินทรัพย์ 7,536 ล้านบาท หนี้สิน 4,805 ล้านบาท กำไรสะสม 1,830 ล้านบาท
 

พรานฯ ผู้ท่องไพรไม่เคยรู้เรื่องเงินทอง อำนาจ วาสนา ถามว่าแล้วจึงรุ่งเรืองกิจจะพังอย่างไร
 

นังบ่างชี้ปมใหญ่ให้อ้าปากค้างว่า คำพิพากษาในคดีนี้ ระบุตอนหนึ่งว่า จำเลยที่ 1 (นายประสิทธิ) นำเอกสารสำนักงานทรัพย์สินฯปลอมไปเสนอแก่นายสกุลธร อ้างว่าที่มีดินให้เช่า ส่งผลให้
 

นายสกุลธร เชื่อว่าสำนักงานทรัพย์สินฯ มีที่ดินแปลงดังกล่าวจริง จึงให้จำเลยที่ 2 (นายสุรกิจ) ดำเนินการติดต่อประสานงานและอำนวยความสะดวกเพื่อให้บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ได้สิทธิเช่าที่ดินแปลงดังกล่าว โดยมีค่าตอบแทนให้จำนวน 500 ล้านบาท จากนั้นจำเลยทั้ง 2 ได้แนะนำให้นายสกุลธร ยื่นหนังสือแสดงความจำนงขอเช่าที่ดินต่อสำนักงานทรัพย์สินฯ ตามช่องทางปกติ
 

แล้วจำเลยทั้ง 2 ร่วมกันเรียกรับเงินจากนายสกุลธร รวม 3 ครั้ง 20 ล้านบาท
 

เงินที่จ่ายนั้นเพื่อเป็นการตอบแทนในการที่จำเลยทั้ง 2 จะร่วมกันไปดำเนินการติดต่อประสานงาน และนำเงินส่วนหนึ่งไปมอบให้รอง ผอ.สำนักงานทรัพย์สินฯ ซึ่งเป็นเจ้าพนักงาน เจ้าหน้าที่ของรัฐ เจ้าพนักงานของรัฐตามกฎหมาย โดยวิธีอันทุจริตและผิดกฎหมาย เพื่อจูงใจรอง ผอ.สำนักทรัพย์สินฯให้กระทำการในหน้าที่ด้วยการจัดสรรที่ดินบริเวณองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (ชิดลม) ซึ่งเป็นทรัพย์สินของสำนักงานทรัพย์สินฯ ให้กับบริษัท เรียลแอสเสทฯ ได้สิทธิการเช่าที่ดินระยะยาว โดยไม่ต้องผ่านการประมูลแข่งขันตามขั้นตอนปกติของการขอเช่าที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินฯ อันเป็นคุณแก่บริษัท เรียลแอสเตทฯ

ศาลจึงพิพากษา จำคุกจำเลย 2 คน กระทงละ 2 ปื รวมจำคุกคนละ 6 ปื จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง คงลงโทษจำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 3 ปื
 

นังบ่างบอกว่า แม้จะไม่มีการตัดสินเอาผิด นายสกุลธร แต่ล่าสุด พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) ผู้ทำคดีนี้มาตั้งแต่ต้นบอกว่าจะดำเนินคดีกับ นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ในฐานความผิดเกี่ยวกับผู้ใช้หรือผู้สนับสนุนการกระทำความผิด
 

เพราะกรณีนี้ บก.ป. แยกการดำเนินคดีออกเป็น 2 สำนวนตั้งแต่ต้น โดยแยกระหว่างผู้ให้สินบน กับตัวกลางเรียกรับสินบน เพื่อให้คดีมีน้ำหนัก และพยานหลักฐานที่ชัดเจน โดย บก.ป.ส่งสำนวนที่มีความเห็นควรสั่งฟ้องกับผู้ต้องหา 2 ราย คืออดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินฯ และผู้ประสานงาน เรียกรับสินบนไปก่อน เพื่อจะได้นำข้อเท็จจริงที่รับฟังเป็นที่ยุติในชั้นการพิจารณาของศาล
 

มาเป็นพยานหลักฐานอีกส่วนหนึ่ง ที่ผ่านมา บก.ป. ทำการสืบสวนคดีให้สินบนมาโดยตลอด ไม่ได้หยุดสอบสวน เนื่องจากต้องการให้คดีมีรายละเอียดรอบคอบมากที่สุด
 

“สิ่งสำคัญและใช้เวลาคือ การตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้กระทำผิด และคนใกล้ชิดว่า จะเชื่อมโยงกับเจ้าหน้าที่บ้างหรือไม่ ตอนนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว ขอทำงานอีกระยะหนึ่งเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่ชัดเจนที่สุด จึงระบุได้ว่ามีการกระทำผิดอย่างไร ใครร่วมกระทำผิดบ้าง โดยหากพบว่ามีความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด” พล.ต.ต.สุวัฒน์ ผบก.ป.ยืนยัน
 

แย้มไต๋แค่นี้ “ตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ” ก็ร้องระงม ทุกข์ระทมกันทั้งบาง
 

เพราะตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม)มาตรา 123/5 วรรคหนึ่งระบุว่า “ผู้ใดให้ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศ หรือเจ้าหน้าที่ขององค์การระหว่างประเทศ เพื่อจูงใจให้กระทําการ ไม่กระทําการหรือประวิงการกระทําอันมิชอบด้วยหน้าที่ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ”
 

วรรคสองระบุว่า “ในกรณีที่ผู้กระทําความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับนิติบุคคลใด และกระทําไปเพื่อประโยชน์ของนิติบุคคลนั้น โดยนิติบุคคลดังกล่าวไม่มีมาตรการควบคุมภายในที่เหมาะสม เพื่อป้องกันมิให้มีการกระทําความผิดนั้น นิติบุคคลนั้นมีความผิดตามมาตรานี้ และต้องระวางโทษปรับตั้งแต่หนึ่งเท่า แต่ไม่เกินสองเท่าของค่าเสียหายที่เกิดขึ้นหรือประโยชน์ที่ได้รับ”
 

วรรคสามระบุว่า “บุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับนิติบุคคลตามวรรคสอง ให้หมายความถึง ลูกจ้าง ตัวแทนบริษัทในเครือ หรือบุคคลใดซึ่งกระทําการเพื่อหรือในนามของนิติบุคคลนั้น ไม่ว่าจะมีอํานาจหน้าที่ในการนั้นหรือไม่ก็ตาม”
 

เห็นแบบนี้แล้วมาดูกรรมการของบริษัทเรียลแอสเสทฯ พบว่ามี 3 คน 1.น.ส.ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ 2. นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ 3.นายบดินทร์ธร จึงรุ่งเรืองกิจ...อั๊ยหยายกครัว
 

นี่ไม่นับ สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ เจ้าแม่อาณาจักรธุรกิจชิ้นส่วนรถยนต์ ในฐานะประธานกลุ่มบริษัทไทยซัมมิท มารดาของนายธนาธร ผู้ติดอันดับมหาเศรษฐีของไทยจากการประกาศของฟอร์บส์ในปี 2019 โดยมีทรัพย์สิน 1,200 ล้านดอลลาร์
 

กรรมติดจรวดจริงๆ