“นกแอร์”ยันเลิกจ้างเป็นธรรม-จ่ายชดเชยเมื่อศาลฯอนุญาต

11 พ.ค. 2564 | 11:20 น.

นกแอร์ โต้ ศรีสุวรรณ จรรยา ยันเลิกจ้างเป็นธรรม ชี้ไม่เคยเพิกเฉยแต่ติดกระบวนการฟื้นฟู เผยพร้อมจ่ายค่าชดเชยเมื่อศาลล้มละลายกลางอนุญาติ ทั้งนี้อาจจะดำเนินดคีหากพบว่าการกล่าวหาดังกล่าว ทำให้นกแอร์เสื่อมเสียชื่อเสียง

ตามที่มีข่าวว่า "นายศรีสุรรรณ จรรยา" เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จะนำนักบินของนกแอร์ เข้าพบนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.กระทรวงแรงงาน เพื่อร้องเรียนกรณีนกแอร์ มีคำสั่งเลิกจ้างกลุ่มนักบิน โดยยังไม่ยอมจ่ายค่าชดเชย

โดยนกแอร์อ้างว่าจะจ่ายเงินชดเชย และเงินอื่นๆตาม พรบ.คุ้มครองแรงงานฯ แต่จะได้รับเงินก็ต่อเมื่อบริษัทสามารถดำเนินธุรกรรมภายใด้กระบวนการของการฟื้นฟูกิจการตามกฎหมายล้มละลายต่อไปได้เสียก่อนแล้วเท่านั้น ซึ่งถือว่าไม่เป็นธรรมต่อพนักงานของบริษัทที่ถูกเลิกจ้าง เพราะตามหลักกฎหมายเมื่อบริษัทมีหนังสือเลิกจ้างแล้วมีผลวันใดบริษัทต้องจ่ายเงินชดเชยและเงินอื่นๆตามกฎหมายทันที ไม่ใช่ให้รอ#รอฝนโดยไม่รู้ว่าจะได้รับเงินเมื่อไร" นั้น

บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) ขอชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทราบว่า เมื่อมีการบอกเลิกจ้างพนักงานของนกแอร์นั้น บริษัทฯมีความตั้งใจจริงที่จะจ่ายค่าชดเชยและเงินอื่นๆ ตามที่กฎหมายแรงงานกำหนดให้กับพนักงานเสมอ ดังนั้นบริษัทจึงได้ส่งคำร้องขออนุญาตทำธุรกรรมต่อศาลส้มละลายกลาง เพื่อขออนุญาตพิจารณาชำระค่าชดเชยและเงินอื่นๆ ตามที่กฎหมายแรงงานกำหนด

ทั้งนี้เพราะบริษัทฯอยู่ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการ ซึ่งบริษัทฯได้เคยยื่นคำร้องไปแล้วสองครั้ง เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2563 และวันที่ 1 มีนาคม 2564 ซึ่งศาลฯได้มีคำสั่งว่า "กรณีตามคำร้อง ไม่ใช่การกระทำที่จำเป็นเพื่อให้การดำเนินการค้าตามปรกติของลูกหนี้สามารถดำเนินการต่อไปได้ เห็นควรให้ยกคำร้อง" ซึ่งหมายความว่าศาลฯยังไม่อนุญาลให้บริษัทฯจ่ายค่าชดเชยและเงินอื่นๆ ตามที่กฎหมายแรงงานกำหนดให้พนักงานนกแอร์ที่ถูกบอกเลิกจ้างได้

ดังนั้นการที่นายศรีสุวรรณ์ จรรยา กล่าวหานกแอร์ตามข้อความข้างต้นนั้น จึงไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงกับกระบวนการและกฎหมายฟื้นฟูกิจการโดยสิ้นเชิง ทั้งนี้บริษัทฯอาจจะพิจารณาคำเนินการทางด้านกฎหมายหากพบว่าการกล่าวหาของนายศรีสุวรรณ ทำให้นกแอร์เสื่อมเสียชื่อเสียง

นกแอร์ขอแจ้งให้ทราบว่า ตลอดระยะเวลาตั้งแต่มีการระบาด โควิด 19 มาตั้งแต่ปลายปี 2562 จนถึงปัจจุบันนั้น นกแอร์ได้มีการพยายามปรับลดค่าใช้จ่ายทุกด้านของการดำเนินธุรกิจ โดยบริษัทฯพยายามที่ จะปรับลดค่าใช้จ่ายด้านพนักงานเป็นเรื่องสุดท้าย เพราะเข้าใจดีถึงความยากลำบากของพนักงานทุกคนในสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้ ทั้งนี้เพื่อให้สายการบินสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถรักษาการจ้างงานเอาไว้ให้ใด้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งที่ผ่านมานกแอร์ก็ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากพนักงานนกแอร์ทุกคนมาโดยตลอด

ในกรณีนักบินนั้นเนื่องจากนกแอร์มีฝูงบินสองประเภทคือโบอึ้ง 738 และ Q400 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เมื่อมีการขอความร่วมมือในการปรับลดค่าใช้จ่าย นกแอร์ก็จะขอความร่วมมือนักบินทั้งสองฝูงบินและได้รับความร่วมมืออย่างดีจากนักบินทั้งสองฝูงบินมาโดยตลอด แต่ในสภาวะปัจจุบันบริษัทฯ มีความจำเป็นที่จะต้องลดจำนวนเครื่องบินของฝูงบิน Q 400 ลงตามแผนการฟื้นฟูกิจการ

ดังนั้นบริษัทฯจึงได้มีการบอกเลิกจ้างกัปตันและผู้ช่วยกัปตันของฝูงบินนี้ไปบางส่วน ทั้งนี้บริษัทฯจะส่งแผนฟื้นฟูกิจการแก่ศาลฯ ได้ภายในกำหนด 15 พฤษภาคมนี้อย่างแน่นอน และคาดว่าเมื่อแผนฟื้นฟูกิจการผ่านการเห็นชอบของเจ้าหนี้แล้ว บริษัทฯ จะได้รับอนุญาตจากศาลฯให้สามารถจ่ายค่าชดเชยและเงินอื่นๆ ตามที่กฎหมายแรงงานกำหนดให้พนักงานนกแอร์ทุกรายที่ถูกบอกเลิกจ้างได้ต่อไป

ส่วนกรณีถูกกล่าวหาเรื่องอื่นๆ นั้น นกแอร์ก็พร้อมจะชี้แจงรายละเอียดในทุกเรื่องเมื่อได้รับคำร้องเรียนที่ชัดเจนมากกว่านี้

ข่าวเกี่ยวข้อง: