ม็อบ “คราฟต์เบียร์” ประท้วง รัฐไร้เยียวยา

01 ก.พ. 2564 | 11:41 น.

ม็อบ “คราฟต์เบียร์” ประท้วง รัฐไร้เยียวยา นัดแต่งดำ เทเบียร์เรียกความเป็นธรรม   ขอผ่อนปรนนั่งดื่มในร้านได้  หลังถูกปิดตายทั้งออฟไลน์ – ออนไลน์

หลังจากการระบาดของโควิด ระลอกใหม่ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือศบค. ได้ออกข้อกำหนดและข้อห้ามตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 16) โดยมีข้อห้ามการดื่มสุรา และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน ส่งผลผกระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบและธุรกิจเกี่ยวเนื่องอย่างน้อย 1 ล้านคน

 

ขณะที่สมาคมคราฟต์เบียร์ประเทศไทยและผู้ประกอบการได้ออกมาเรียกร้องอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดสมาคมคราฟต์เบียร์ฯและกลุ่ม ‘ประชาชนเบียร์’ ออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง โดยเข้ายื่นหนังสือต่อกับกระทรวงสาธารณสุข ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ช่วงบ่ายที่ผ่านมา เพื่อขอผ่อนปรนให้สามารถขายแอลกอฮอล์เพื่อบริโภคในร้านค้าได้ ภายใต้มาตรการคัดกรองอย่างเข้มข้นตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข และ ขอความชัดเจนในข้อห้ามการซื้อขายแอลกอฮอลล์ผ่านอิเลกทรอนิกส์

ม็อบ “คราฟต์เบียร์” ประท้วง รัฐไร้เยียวยา

โดย เนื้อหาในเอกสาร มีใจความดังนี้

 

เนื่องด้วยคำสั่งของกรุงเทพมหานครในการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อการบริโภคภายใน ร้านอาหารและบาร์ ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการร้านอาหารและบาร์อย่างรุนแรง


ทางสมาคมคราฟต์บียร์มีความข้าใจถึงความปรารถนาดีของหน่วยงานสาธารณสุขและความกังวลในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส อย่างไรก็ตาม ทางสมาคมฯมีความกังวลเป็นอย่างมากต่อความอยู่รอดของผู้ประกอบการ และพนักงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งทางตรงและทางอ้อม

 

ในปัจุบันมีผู้ประกอบการรายย่อยที่ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคราฟต์เบียร์ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวนไม่น้อยกว่า 300 ร้าน และมีผู้ได้รับผลกระทบไม่ต่ำกว่า 5,000 ราย ประมาณการมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น เป็นมูลค่าประมาณ 150 ล้านบาทต่อเดือน ปัญหาความเสียหายที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบ ทั้งระบบธุรกิจ ตั้งแต่ผู้นำเข้า ตัวแทนจำหน่าย บริษัทขนส่ง บริษัทที่ให้เช่าคลังสินค้า ร้านค้า พนักงานประจำและพนักงานจ้างรายวัน

 

โดยปัญหาที่ผู้ประกอบการกำลังเผชิญ มีดังต่อไปนี้

1) ร้านค้า ตัวแทนจำหน่าย และผู้นำเข้า ไม่สามารถระบายสินคำเบียร์สด ซึ่งเป็นสินค้าที่มีตันทุนสูง และมีอายุสินค้าสั้นได้

ม็อบ “คราฟต์เบียร์” ประท้วง รัฐไร้เยียวยา

2) ร้านค้าไม่สามารถจำหน่ายเบียร์สด ในบรรจุภัณฑ์อื่น เพื่อให้ลูกค้านำกลับไปบริโภคที่บ้านได้ เนื่องจากผิด พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้ต้องสูญเสียสินค้าไปโดยใช่เหตุ

 

3) ร้านค้าไม่สามารถจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากผิดกฎหมายห้ามซื้อ ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทางออนไลน์ แม้ตัวกฎหมายนี้จะยังคงมีปัญหา มีความคลุมเครือและไม่ชัดเจน เช่น ไม่สามารถให้คำนิยามคำว่าอิเล็กทรอนิกส์ได้ อีกทั้งยังไม่มีคู่มือให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง

 

4) ปัญหามาตรา 32 พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ไม่เพียงห้ามให้ร้านค้าโพสต์ประชาสัมพันธ์ หรือขายสินค้าเครื่ยงดื่มแอลกอฮอล์ทางโซเชียลมีเดีย แต่ยังรวมไปถึงการเขียนถึงสินค้าแม้จะไม่มีรูปประกอบ ซึ่งอาจจะเข้าข่ายความผิดตามวิจารณญาณของเจ้าหน้าที่

 

5.) เมื่อร้านค้าไม่สามารถโพสต์อธิบายสินค้าของตัวเองได้เลย ก็ไม่สามารถสื่อสารกับผู้บริโภคเพื่อให้มาซื้อสินค้าแบบกลับบ้านได้ ทำให้ไม่มีรายได้ใดๆ เข้ามาเลย

 

6.) คราฟต์เบียร์เป็นสินค้าที่มีอายุสั้น การถูกคำสั่งห้ามขาย ส่งผลให้สินค้าเสื่อมสภาพลงทุกวัน และกลายเป็นมูลดำความเสียหายจำนวนมาก

ม็อบ “คราฟต์เบียร์” ประท้วง รัฐไร้เยียวยา

7) บริษัทนำเข้าประสบปัญหาสภาพคล่องทางการงิน เนื่องจากไม่สามารถเก็บเงินจากร้านค้าได้เช่นกันและส่งผลไปถึงการติดต่อทำธุรกิจระหว่างประเทศ

 

8) บริษัทนำเข้ายังต้องแบกรับภาระในการเสียภาษีศุลกากรและภาษีสรรพสามิตตามปกติเป็นจำนวนมากโดยที่บริษัทกำลังเผชิญภาระปัญหาสภาพคล่องทางการเงินอย่างรุนแรง

 

9.) บริษัทจัดจำหน่ายและบริษัทขนส่งต้องหยุดกิจการไปแบบไม่มีกำหนด และส่งผลถึงพนักงานเป็นจำนวนมาก

 

10.) ธุรกิจโรง brewpub ต้องประสบปัญหาอย่างรุนแรง เนื่องจากสินค้าหลักคือเบียร์สดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น และยังส่งผลถึงเบียร์ที่ได้เข้าสู่กระบวนการผลิตไปแล้วในช่วงก่อนหน้าประกาศห้ามขาย ทำให้มีเบียร์จำนวนมากเสื่อมสภาพและต้องถูกทำลายทิ้งในที่สุด

 

จากปัญหาข้างต้น จะเห็นได้ว่า ผู้ประกอบการไม่สามารถทำธุรกิจได้ตามปกติ และประสบปัญหาอย่างหนักหน่วง ทางสมาคมฯ จึงขอเสนอมาตรการเพื่อบรรเทาและเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ ระหว่างช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ดังต่อไปนี้

 

1) ผ่อนปรนให้สามารถขายแอลกอฮอล์เพื่อบริโภคในร้นค้าได้ โดยมีมาตรการคัดกรองอย่างเข้มข้นตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

ม็อบ “คราฟต์เบียร์” ประท้วง รัฐไร้เยียวยา

2) ผ่อนปรนการบังคับใช้กฎหมาย ห้ามเปลี่ยนแปลงบรรจุภัณฑ์ โดยอนุญาตให้ร้านค้าสามารถจำหน่ายเบียร์สดลงในบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็ก เพื่อให้ลูกค้านำกลับไปบริโภคที่บ้านได้

 

3.) ชะลอการบังคับใช้กฎหมายห้ามซื้อขายเครื่องดื่มแอลกอออล์ทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ร้านค้าสามารถจำหน่ายสินค้าทางช่องทางออนไลน์ โดยยังบังคับให้ผู้ขายต้องตรวจสอบอายุของผู้ซื้อสินค้าให้เป็นไปตามกฎหมาย

 

4.) ผ่อนปรนให้ร้านค้าสามารถโพสต์รูปสินค้า และอธิบายสินค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทางสื่อโซเชียลมีเดียได้

ม็อบ “คราฟต์เบียร์” ประท้วง รัฐไร้เยียวยา

5.) อนุญาตให้ผู้ประกอบการชะลอการจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มและนำส่งประกันสังคม

 

6.) อนุญาตให้ผู้นำเข้า สามารถแบ่งชำระภาษีสรรพสามิตและภาษีนำเข้าเป็นงวดๆ เพื่อบรรเทาปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน

 

ท้ายที่สุดแล้ว ทางสมาคมคราฟต์เบียร์ รวมถึงประชาชนทุกคนที่ประกอบอาชีพสุจริตในธุรกิจคราฟต์เบียร์ ได้แต่หวังว่าทางภาครัฐจะมีความเห็นอกเห็นใจ เข้าใจปัญหาอย่างจริงใจ ถึงสถานการณ์ที่พวกเราได้รับผลกระทบอยู่ และขอให้ท่านได้พิจารณาข้อเยียวยาตามที่ได้เสนอไป

 

ทั้งนี้ นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวงสาธารณสุข เป็นตัวแทนออกมารับหนังสือ โดยหลังจากส่งมอบหนังสือและร่วมหารือกัน ทางสมาคมยังมีกิจกรรมเปิดขวดเบียร์เททิ้งลงในถังขยะสีเหลืองที่นำมา ก่อนจะยุติกิจกรรมในเวลา 13.30 น.

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ห้ามออนไลน์ขายเหล้า แห่จดเว็บไซต์นอก เลี่ยงเจาะตลาดใต้ดิน

เตือนห้ามขายเหล้า-เบียร์ผ่านสื่อออนไลน์ เริ่ม 7 ธ.ค.

ห้ามขายนํ้าเมาออนไลน์ ทุบตลาด 3.7 แสนล.ซํ้าโควิด

ยื่นฟ้องศาล เบรกห้ามขาย นํ้าเมาออนไลน์

TABBA ติงห้ามขายเหล้า-เบียร์ออนไลน์เกาไม่ถูกที่คัน