ZEN ปรับโครงสร้าง ปั้น 7 แบรนด์หลักฝ่าโควิด

16 ก.ค. 2563 | 03:29 น.

เซนกรุ๊ป เปิดเกมรุกครึ่งปีหลังรับธุรกิจร้านอาหารฟื้นตัว ปรับโครงสร้างครั้งใหญ่หวังเสริมศักยภาพการบริหารจัดการ พร้อมชูโมเดลแฟรนไชส์ /คลาวด์ คิทเช่น รุกเดลิเวอรี่เต็มสูบ

นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN ผู้ประกอบธุรกิจบริการอาหาร (Food Services) เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลังมีความมั่นใจที่จะนำบริษัท กลับมาสร้างผลกำไรที่ดีอีกครั้ง หลังจากไตรมาส 2 ที่ผ่านมาภาพรวมธุรกิจร้านอาหารได้รับผลกระทบจากมาตรการเคอร์ฟิวและการล็อกดาวน์ในเดือนเมษายนและพฤษภาคม และคาดว่าจะเป็นจุดต่ำสุดของการดำเนินงานในปีนี้ เนื่องจากภายหลังรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ระยะที่ 4 เมื่อกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ส่งผลให้บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยฟื้นตัวอย่างชัดเจน โดยเฉพาะภาพรวมธุรกิจร้านอาหารที่ทยอยกลับมาเปิดให้บริการมากขึ้น

ZEN ปรับโครงสร้าง ปั้น 7 แบรนด์หลักฝ่าโควิด

“ประเมินว่าทิศทางตลาดร้านอาหารในครึ่งปีหลังของไทยจะสามารถลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง เนื่องจากาพรวมกำลังซื้อและสถานการณ์เริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยในส่วนของบริษัทเองก็มั่นใจว่าจะสามารถกลับมาสร้างผลกำไรได้อีกครั้ง เนื่องจากภายหลังรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ระยะที่ 4 เมื่อกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ส่งผลให้บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยฟื้นตัวอย่างชัดเจน โดยเฉพาะภาพรวมธุรกิจร้านอาหารที่ทยอยกลับมาเปิดให้บริการมากขึ้น”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ZENปั้น‘ดินส์’ บุกฟาสต์ฟู้ดอาหารจีน

EXCLUSIVE INTERVIEW | "ZEN" ลุยต่อยอดธุรกิจอาหาร

เซ็น กรุ๊ป เปิด “FOO Flavor” เสริมทัพร้านอาหารในเครือ

พร้อมกันนี้บริษัทยังมีแผนปรับโครงสร้างองค์กรและการบริหารจัดการใหม่เพื่อให้ง่ายต่อการบริหารจัดการหลังพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปภายหลังการระบาดของวิด-19 ได้แก่ 1.การปรับโครงสร้างภายในองค์กรใหม่ เพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการ และเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมค่าใช้จ่ายและบริหารจัดการต้นทุน โดยจะมีผลในวันที่ 1 ส.ค.นี้ 2. ปรับร้านอาหารบางสาขาเป็นรูปแบบ Virtual  Kitchen หรือครัวกลางที่สามารถรองรับการปรุงอาหารแบรนด์อื่นในเครือเซ็นกรุ๊ปได้ 3. ขยายสาขาร้านอาหารไทยตามสั่งแบรนด์ ‘เขียง’ เน้นโมเดลแฟรนไชส์ และยังเป็นการสร้างโอกาสแก่ผู้ที่ต้องการสร้างอาชีพลงทุนในธุรกิจร้านอาหาร โดยมีโอกาสคืนทุนได้ภายในระยะเวลา 2-3 ปีเท่านั้น ทั้งนี้ในช่วง 5 เดือนแรกที่ผ่านมาเปิดสาขาเขียงเพิ่มขึ้นอีกกว่า 20 แห่ง ส่งผลให้ปัจจุบันมีสาขารวมทั้งหมดกว่า 70 แห่ง และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะขยายเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 100 สาขา ซึ่งจะเป็นแบรนด์ร้านอาหารไทยตามสั่งที่มีสาขามากที่สุดในประเทศไทย  จากปัจจุบันที่มีอยู่ 70 แห่ง และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะขยายเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 100 สาขา ซึ่งจะเป็นแบรนด์ร้านอาหารไทยตามสั่งที่มีสาขามากที่สุดในประเทศไทย

ZEN ปรับโครงสร้าง ปั้น 7 แบรนด์หลักฝ่าโควิด

และ 4. เพิ่มสัดส่วนรายได้จากช่องทางเดลิเวอรี่อย่างต่อเนื่องผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ได้แก่ แกร็บฟู้ด ไลน์แมน เก็ท ฟู้ดแพนด้า สั่งอาหารออนไลน์ร้านในเครือของบริษัทผ่านคอลเซ็นเตอร์ 1376 Delivery  และพัฒนาเมนูใหม่ภายใต้ชื่อ Chicken Z (ชิกเก้นซี) ไก่ทอดสูตรลับฉบับเซ็นที่พัฒนาขึ้นเองเพื่อให้บริการลูกค้าสั่งซื้อแบบเดลิเวอรี่โดยเฉพาะ ปัจจุบันมี 12 สาขาที่ให้บริการแบบเดลิเวอรี่ได้ คาดว่าสัดส่วนรายได้เดลิเวอรี่ของบริษัทจะเพิ่มเป็นประมาณ 300 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณกว่า 10% จากยอดขายรวมในปีนี้

“โดยภาพรวมร้านอาหารทุกแบรนด์ของเราถือว่าฟื้นตัวได้เร็วแบบ V Shape เนื่องจากผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นกับแบรนด์มากขึ้น สามารถเดินทางไปทำงานที่ออฟฟิศและใช้ชีวิตนอกบ้านได้ หลังจากรัฐบาลทยอยผ่อนคลายธุรกิจต่างๆ ทยอยเปิดบริการ และไม่พบตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ในประเทศอย่างต่อเนื่องหลายวัน จึงมั่นใจว่าบริษัทจะกลับมาทำผลการดำเนินงานได้ดีในครึ่งปีหลัง”

ZEN ปรับโครงสร้าง ปั้น 7 แบรนด์หลักฝ่าโควิด

ขณะที่ร้านอาหารในเครือเซ็นกรุ๊ปในพอร์ตโฟลิโอที่มีทั้งสิ้นกว่า 10 แบรนด์ในปัจจุบัน รองรับลูกค้าหลากหลายเซ็กเมนต์ อาทิ แบรนด์ AKA, ZEN, On the Table ฯลฯ  พบว่าร้านอาหารส่วนใหญ่ทั้งในและนอกศูนย์การค้า มีลูกค้ากลับมาใช้บริการนั่งทานภายในร้านเฉลี่ย 80-85% เมื่อเทียบกับช่วงปกติ ถือว่าฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเทียบกับช่วงปกติ  และคาดว่าไตรมาสสุดท้ายธุรกิจจะกลับมาได้ถึง 90-95% โดยในครึ่งปีหลังนี้ เซ็นกรุ๊ป จะใช้งบกว่า 100 ล้านบาทในการขยายสาขาต่อเนื่อง รวมทั้งมีการลงทุนระบบเทคโนโลยีไอที เพื่อเสริมประสิทธิภาพ ซึ่งแผนงานนับจากนี้จะให้ความสำคัญกับการพัฒนา 7 แบรนด์หลักที่มีศักยภาพในการสร้างการเติบโต ประกอบด้วย เซ็น (ZEN) อากะ (AKA) ออนเดอะเทเบิล  โตเกียว คาเฟ่ (On the Table Tokyo café) ตำมั่ว  (Tummour) เขียง (Khiang)  ดินส์ (Din's) และ ลาวญวน (Lao Yuan) โดยจะมีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง