เช็กที่นี่ ผ่อนคลาย "ล็อกดาวน์" ระยะที่ 4 เตรียมเปิด 12 กิจการ ความเสี่ยงสูงสุด
โฆษก ศบค. เผย 12 กิจกรรม/กิจการ กลุ่ม "สีแดง" มีความเสี่ยงสูงสุด เตรียมรับการพิจารณา ผ่อนคลายล็อกดาวน์ หรือ ผ่อนปรน ระยะที่ 4
วันที่ 4 มิ.ย. 63 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (ศบค.) เปิดเผยถึงการเตรียมผ่อนคลายล็อกดาวน์ หรือ มาตรการผ่อนปรน ระยะที่ 4 ว่า สำหรับกิจกรรม กิจการ ที่จะผ่อนคลายในระยะต่อไป มีเบื้องต้น 12 กิจกรรม/กิจการ ประกอบด้วย
1.โรงเรียน และสถานศึกษา
2. การถ่ายทำภาพยนต์ และวีดีทัศน์
3.สนามกีฬา โรงยิม สถานที่ออกกำลังกาย สำหรับฝึกซ้อม และการแข่งกีฬา
4. สถานรับเลี้ยงเด็ก และสถานดูแลผู้สูงอายุ
5. อุทยานแห่งชาติ สวนรุกขชาติ สำหรับพื้นที่ส่วนราชการกำหนด และสามารถปฏิบัติตามมาตรการได้
6. การจัดแสดงคอนเสิร์ต ดนตรี งานอีเวนท์ จัดแสดงสินค้าพื้นที่เกิน 2 หมื่นตารางเมตร
7. ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา
8. ชายหาด ชายทะเล เฉพาะพื้นที่ส่วนราชการกำหนด และสามารถปฏิบัติตามมาตรการ
9. สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ
10. ห้องประชุม ที่มีการรวมกลุ่มคน มากกว่า 200 คน
11. สวนสนุก สวนน้ำ สนามเด็กเล่น ร้านเกม
12. สถานบริการอาบอบนวด
“การคลายล็อกดาวน์ หรือมาตรการผ่อนปรน กิจกรรม/กิจการเหล่านี้เป็นกลุ่มสีแดง เรายังต้องอยู่กับโรคนี้อีกนานแค่ไหนยังไม่รู้ เพราะบางทฤษฎีประเมินเป็นเดือน บางทฤษฎีเป็นปี ศบค.ชุดเล็กได้ทยอยเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกิจการ กิจกรรมเหล่านี้ มาพูดคุย เช่นการแข่งขันกีฬาจะทำได้หรือไม่อย่างไร การเปิดกองถ่ายฉากใหญ่ๆที่มีคนจำนวนมาก จะทำอย่างไร เพราะขณะนี้ที่อนุญาต 50 คนแต่บางฉากใหญ่ๆต้องใช้คนเป็นหลักร้อย มาตรการต่างๆเหล่านี้ ต้องมาพูดคุยกัน ท่านต้องมาเสนอ หน้าที่ศบค.คือรับฟังจากทุกภาคส่วน” นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าว
เมื่อถามว่า มีการเปิดจองงานวิ่งในช่วงปลายปี จะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังยืนยันไม่ได้ เพราะสถานการณ์โลกยังเพิ่มสูง และทฤษฎีต่างๆยังไม่ตรงกัน จึงขึ้นอยู่กับชุดพฤติกรรมของคน และการค้นพบวัคซีน หากยังไม่เจอ ช่วงปลายปีเรายังต้องเข้มข้นกับมาตรการอยู่ การจะทำได้หรือไม่ จึงยังไม่ชัดเจน การทำกิจกรรมต่างๆที่ม่ีความเสี่ยงจะได้จัดหรือไม่นั้น ประชาชนสามารถแสดงเจตจำนงค์ได้ แต่ต้องมีแผนรองรับความเสี่ยงไว้ ตนยังไม่อยากยืนยันว่าสิ้นปีนี้มีความปลอดภัยแค่ไหน แต่ขอให้ทำวันนี้ให้ดีที่สุดกันทั้งประเทศ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
น.พ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงภาพคนไทยทะลักแห่เที่ยวชายหาดบางแสน หลังการ ผ่อนคลายล็อกดาวน์ หรือ ผ่อนปรน ระยะที่ 3 ประเด็นนี้มีความสำคัญ เพราะเมื่อมีการออกมาตรการผ่อนคลาย ให้ได้ผ่อนคลายจิตใจ ร่างกาย ได้ไปเที่ยวกับครอบครัว แล้วแต่ยังคงมีความเสี่ยง ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการหลัก 5 ข้อ และหากเห็นจุดใดคนเริ่มหนาแน่นขอให้ช่วยกระจายตัวกันออกไป และภาพนี้คือตัวอย่างข้อเท็จจริง ที่เราต้องนำมาพิจารณารับมือการเดินทางในวันหยุดที่จะเกิดในอนาคต ยืนยันภาครัฐเราทำอย่างเต็มที่ แต่ต้องเป็นความร่วมมือสามส่วน ทั้งผู้ประกอบการ ประชาชน และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่จะเข้าไปตรวจกิจกรรม กิจการที่ได้รับการผ่อนคลาย ภาพที่เห็นเป็นตัวอย่างของปัญหา เราต้องหามาตรการช่วยกัน และที่สำคัญต้องได้รับความร่วมมือจากทุกคน