กรมพัฒน์ฯ เร่งดันแพลตฟอร์มกลาง  “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด”

08 ก.พ. 2564 | 14:22 น.

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ผนึกกำลัง 23 หน่วยงาน เร่งผลักดันแพลตฟอร์มกลาง “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด”ขับเคลื่อนนโยบายมีตลาดในการจัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ลดปัญหาสินค้าเกษตรล้นตลาด สร้างเสถียรภาพการค้าสินค้าเกษตร เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางสินค้าเกษตรและอาหารคุณภาพของโลก

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต และเห็นชอบให้ตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ตลาดนำการผลิต เพื่อให้การดำเนินการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิตประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์และบรรลุพันธกิจร่วม 4 พันธกิจ ได้แก่ การสร้างและใช้ข้อมูลจากฐานเดียวกัน (Single Big Data) การสร้างแพลตฟอร์มกลาง “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” การสร้างความเชื่อมั่นด้านคุณภาพ มาตรฐานความปลอดภัยและการตรวจสอบย้อนกลับ และ การพัฒนาคนและผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการของตลาด

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

 

 

 

 

กรมพัฒน์ฯ เร่งดันแพลตฟอร์มกลาง   “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด”

สำหรับแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และกรมส่งเสริมสหกรณ์ ในฐานะประธานอนุกรรมการร่วมขับเคลื่อนการสร้างแพลตฟอร์มกลาง เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาดพร้อมด้วยหน่วยงานภายใต้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีการประชุมหารือร่วมกับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ผ่านระบบ Zoom เพื่อรวบรวมข้อมูลแพลตฟอร์มที่มีอยู่ของกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยจะหาทางเลือกที่ดีที่สุดของการออกแบบและพัฒนาแพลตฟอร์มกลาง “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” เพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงหลายด้านที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจการค้าไทย เช่น สงครามการค้า โรคโควิด-19 เทคโนโลยีสมัยใหม่ และประเด็นด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และประชากร

ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานการสร้างแพลตฟอร์มกลาง เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด เพื่อช่วยสนับสนุนและเกิดความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน ตลอดจนเป็นเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย และทำการตลาดสินค้าเกษตรได้อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อเชื่อมโยงและสร้างโอกาสทางการค้าสินค้าเกษตรทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น สินค้าเกษตรอินทรีย์ สินค้าเกษตรปลอดภัย สินค้าเกษตรอัตลักษณ์ และสินค้าเกษตรแปรรูป ช่วยให้เกษตรกรและผู้ประกอบการชุมชนให้สามารถขยายช่องทางการตลาดสู่ออนไลน์ได้ สร้างความมั่งคงในเศรษฐกิจระดับท้องถิ่นไปจนถึงประเทศ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสินค้าเกษตรและอาหารคุณภาพของโลก