“กรอ.พาณิชย์”เคาะส่งออกปีนี้ ขยายตัว4%
“กรอ.พาณิชย์” เคาะตัวเลขส่งออกปีนี้ขยายตัว3.5-4% หลังการค้าโลกเริ่มฟื้นตัว สถานการณ์ไวรัสโควิค-19 เริ่มคลี่คลาย ด้านเอกชนชงภาครัฐเร่งเจรจาFTA แก้ค่าบาท เชื่อส่งออกปีนี้ขยายตัวได้ตามเป้า
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและะเอกชนด้านการพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) ครั้งที่ 1/2564 ว่า มีเรื่องสำคัญที่มีการหารือร่วมกันในที่ประชุม โดยเฉพาะ การ ประเมินสถานการณ์ส่งออกในปี 2564 ได้หารือร่วมกันกับภาคเอกได้ประเมินปี 2564 คาดว่าการส่งออกของไทยจะขยายตัวได้ร้อยละ 3.5-4 โดยประมาณกระทรวงพาณิชย์ประเมินว่าโอกาสที่จะถึงร้อยละ 4 มีความเป็นไปได้สูง จากสถานการณ์การค้าโลกที่กลับมาฟื้นตัว ปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลายหลังจากที่หลายประเทศเริ่มมีวัคซีน
ด้าน นายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจัยที่จะช่วยให้การส่งออกไปถึงเป้าที่ตั้งไว้3.5-4% ในปีนี้ สิ่งที่เอกชนพยายามเร่งรัดคือการเจรจาเอฟทีเอกับประเทศต่างๆที่ไทยอยู่ระหว่างการดำเนินการให้ได้มากที่สุด เพราะถ้าเทียบกับเวียดนามที่มีเอฟทีเอถึง17 ฉบับ กับ15ประเทศ ในขณะที่เองต้องเร่งให้มีการเจรจาเอฟทีเอโดยเร็ว
นอกจากนี้อัตราแลกเปลี่ยนเป็นส่วนสำคัญ เพราะค่าบาทของที่แข่งค่ากว่าเพื่อนบ้านมากโดยไทยเทียบค่าบาทกับเวียดนามที่ค่าเงินอ่อนกว่าดอลลาร์สหรัฐถึง4% ในขณะที่ไทยแข็งค่าถึง15%ต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้การส่งออกของเวียดนามปีที่ผ่านมาขยายตัวมากถึง7% ในขณะที่ไทยติดลบ6% ในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็น2 ประเด็นที่อยากจะฝากรัฐบาลช่วยเร่งดำเนินการ
ขณะที่นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า ตัวเลขส่งออกปีนี้ ในส่วนเองชนมองไว้3.5-4%เป้นตัวเลขการขยายตัวที่เป็นไปได้ เพราะฐานของปี2563 ถือว่าติดลบลดลง และ2เดือนหลังตัวเลขกลับมาขยายตัวขึ้น และสินค้าบางรายการเริ่มมีคำสั่งซื้อกลับมา เช่น ยานยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ ยางพารา ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เป็นต้น ส่วนกระทรวงพาณิชย์มองว่าปีนี้ส่งออกน่าจะขยายตัวมากกว่า4%
นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้มีการหารือสถานการณ์ในเมียนมา ถึงขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบที่มีนัยสำคัญต่อภาคการค้าและภาคธุรกิจ ยังสามารถดำเนินการทางธุรกรรมได้ตามปกติ การค้าขายระหว่างกันยังสามารถดำเนินการได้ เมียนมาถือว่าเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยในเรื่องการค้าชายแดนถือว่าไม่ได้รับผลกระทบด่านสำคัญ 3 ด่านที่เป็นด่านถาวรในการส่งออกสินค้าของไทยทั้งด่านแม่สาย แม่สอด หรือระนอง สามารถส่งออกสินค้าได้ตามปกติโดยเฉพาะด่านที่กาญจนบุรี สังขละบุรีที่ปิดไปคาดว่าจะสามารถเปิดด่านได้ในเร็ววัน กระทรวงพาณิชย์ได้สั่งการให้สำนักงานพาณิชย์ในเมียนมาติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และรายงานกลับมาทุกวันและจะอัพเดทสถานการณ์ในเมียนมาที่เกี่ยวข้องกับการค้าการลงทุนการทำธุรกิจให้ทราบผ่านเว็บไซต์ของกระทรวงพาณิชย์ทุกวัน