ปลุกประมงแก้ผ่าน “คกก.ขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน”

ด้วยสำนักนายกรัฐมนตรี มีคำสั่งที่ 242/2563 ลงวันที่ 13 สิงหาคม เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน โดยกำหนดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัดคณะแรกให้แล้วเสร็จและจัดให้มีการประชุมภายใน 30 วัน โดยกำหนดประเด็นกลุ่มปัญหาที่เป็นความเดือดร้อนหรือจำเป็นเร่งด่วนของจังหวัด แนวทาง แผนและขั้นตอนการดำเนินการขีดความสามารถของจังหวัด และแนวทางการบูรณาการทำงานร่วมกันและการระดมทรัพยากรของภาคส่วนต่างๆ มาใช้ในการแก้ปัญหา ความต้องการของประชาชน นั้น

นายมงคล สุขเจริญคณา นายกสมาคมการประมงสมุทรสงคราม และกรรมการคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันจังหวัดสมุทรสงคราม เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า หากนายกสมาคมประมงจังหวัดไหน ใน 22 จังหวัด ได้เข้าร่วมไปเป็นกรรมการขับเคลื่อนไทยในระดับจังหวัดของท่าน ช่วยไปสะท้อนปัญหาด้านประมงและต่อเนื่องประมงกันด้วย เพราะจากปัญหาการแก้ไขการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (Illegal Unreported and Unregulated Fishing : IUU Fishing) ที่ผ่านมา 5-6 ปี ได้ส่งผลกระทบกับพี่น้องชาวประมงเป็นอย่างมาก

โดยปัญหาความเดือดร้อนที่ชาวประมงประสบอยู่ในขณะนี้ เกิดขึ้นจากเจ้าหน้าที่รัฐที่ใช้อำนาจโดยไม่มีการศึกษาข้อมูลและข้อเท็จจริให้ชัดเจน ทำให้เกิดผลกระทบกับพี่น้องชาวประมงตลอดมา เพราะในกฎหมายประมงมาตรา 81 ที่บังคับสารพัดให้ชาวประมงต้องทำเรื่องงานเอกสารธุรกการต่างๆ มากมาย กรณีไม่ทำ หรือทำผิดพลาด จะถือเป็นการกระทำผิดขั้นร้ายแรง ตามมาตรา 114 ซึ่งส่งผลให้พี่น้อง ลุง ป้า น้า อา ชาวประมง ที่ไม่ค่อยรู้หนังสือมากนัก กระทำความผิดโดยไม่เจตนาส่งผลให้ต้องหมดอาชีพ และสิ้นเนื้อประดาตัวกันไปเป็นจำนวนมาก จากเดิมที่ได้สร้างเนื้อสร้างอาชีพมาไม่น้อยกว่า 30-40 ปี และอาจจะต้องหมดอาชีพในทันทีที่กระทำความผิดและมีโอกาสเกิดความผิดได้โดยง่ายตลอดเวลา ตามกฎหมายมาตรา39

นายมงคล กล่าวว่า ขอให้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้มีการจัดประชุมร่วมกันระหว่างสมาคมการประมงแห่งประทศไทย คณะกรรมการเฉพาะกิจการแก้ไขปัญหาประมง (เฉพาะกิจ1,เฉพาะกิจ2) กรมประมง,กรมจัดหางาน,กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และกรมเจ้าท่า  โดยเร่งด่วน เพื่อแก้ปัญหา พ.ร.ก.การประมง 2 ฉบับ คือ 2558/2560 ในหลายมาตรา ที่สร้างปัญหาให้กับพี่น้องชาวประมง รวมทั้งกฎหมายลูกต่างๆ

2.ปัญหาการขาดแรงงาน 3. ปัญหาสินเชื่อ ที่ยังไม่มีความคืบหน้าและยังถูอียูทักท้วง มีเงื่อนไขยุ่งยาก 4.ปัญหาราคาสัตว์น้ำตกต่ำ 5.ปัญหาเยียวยาประมง ซึ่งยังไม่มีเจ้าภาพรับผิดชอบที่ชัดเจน ที่สำคัญ ขอพิจารณาผ่อนผัน ยกเว้นการควบคุมวันทำการประมงของชาวประมงปีการประมง 2563-2564 ออกไปก่อนเป็นเวลา 2 ปี เพื่อผ่อนคลายปัญหาให้กับชาวประมง เหตุผลเพราะทรัพยากรสัตว์น้ำมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นปีละ15% เป็นเวลา 5-6 ปี ตามข้อมูลของกรมประมง

นายมงคล กล่าวว่า หากไม่ได้รับการแก้ไขปัญหา ในไม่ช้าจะทำให้อาชีพชาวประมงต้องไปไปจากประเทศไทย อย่างแน่นอน ล่าสุด วันพรุ่ง (19 ส.ค.63) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ติดภารกิจกับนายกรัฐมนตรี ขอเลื่อนไปเป็นสัปดาห์น้า ในวันเดียวกันนั้นทางสมาคมการประมงแห่งประเทศไทยจึงเลื่อนเวลาการประชุมใหญ่วิสามัญ เลื่อนเป็นเวลา 13.00-17.00 น. ณ โรงแรมใบหยกสกาย (ประตูน้ำ) จากเดิม เวลา 15.00 -19.00 น.