ส่งออกสินค้า20กลุ่มโงหัว

14 พ.ค. 2563 | 01:30 น.

สรท. ประเมิน 20 กลุ่มสินค้าส่งออกฟื้นตัว 3 รูปแบบ ทั้งรูปตัว V, U และ L บนสมมติฐานคู่ค้าคลายล็อกดาวน์และไม่มีรอบ2 ระบุอาหาร ชิ้นส่วนรถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ฟื้นตัวเร็วสุดภายใน Q2-Q3 ปีนี้ ขณะรถยนต์ อัญมณี นํ้ามันช้าสุดฟื้น Q2 ปีหน้า

การส่งออกของไทยยังซมพิษโควิด-19 ช่วงไตรมาสแรกปีนี้มีมูลค่าส่งออกรวม 62,672 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯขยายตัวเพียง 0.91% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ทั้งปี 2563 หลายสำนักพยากรณ์ฟันธงหากโควิดยังลากยาวการส่งออกไทยจะติดลบอย่างน้อย -5% ถึง -10% อย่างไรก็ดีช่วงจากนี้ไปถือเป็นโอกาสของสินค้าหลายกลุ่มของไทยในหลายตลาดที่สถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย แต่ยังเป็นวิกฤติในอีกหลายประเทศ

นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าสรท.ได้ประเมินสถานการณ์ส่งออกสินค้าไทยรายอุตสาหกรรมของไทยในช่วงจากนี้รวม 20 รายการสำคัญ บนสมมติฐานประเทศคู่ค้าได้ทยอยยกเลิกล็อกดาวน์ และไม่มีล็อกดาวน์รอบใหม่อีก โดยสินค้าที่คาดว่าจะสามารถฟื้นตัวได้ในลักษณะ V Shape หรือฟื้นตัวได้ในระสั้นประมาณไตรมาสที่ 2 ถึงไตรมาสที่ 3 ปีนี้มี 6 รายการ, U Shape ฟื้นตัวประมาณไตรมาสที่ 4 ปีนี้ ถึงไตรมาสที่ 1 ของปี 2564 มี 8 รายการ และ L Shape ฟื้นตัวประมาณไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 เป็นต้นไป มี 6 รายการ (กราฟิกประกอบ)

ตัวอย่างในกลุ่ม V Shape ได้แก่ อาหาร(ตลาดคอนซูเมอร์) ที่ขายตามซูเปอร์มาร์เก็ตสามารถพลิกกลับมาขยายตัวได้ทันที จากคนซื้อกลับหรือไปปรุงทานที่บ้าน ในสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก แท็บเลต จะขยายตัวเพิ่มขึ้นทั้งขายผ่านออนไลน์ และออฟไลน์ จากความต้องการของใหม่ที่มีประสิทธิภาพดีขึ้นแทนเครื่องเดิมเพื่อใช้ในการทำงาน Work From Home ประชุมหรือเรียนผ่านระบบออนไลน์ลดการเดินทางมากขึ้น และชิ้นส่วนรถยนต์ จากหลายโรงงานประกอบรถยนต์เริ่มกลับมาผลิตอีกครั้ง

ส่งออกสินค้า20กลุ่มโงหัว

กลุ่ม U Shape เช่น อาหารในกลุ่มอาหารทะเลแช่เย็นแช่แข็ง และตลาด HORECA (ส่งให้กับโรงแรม ร้านอาหาร ภัตตาคาร ร้านกาแฟ และธุรกิจจัดเลี้ยง) ซึ่งคงต้องรอให้ภาคท่องเที่ยวและบริการค่อย ๆ ฟื้นตัวคาดเร็วสุดไตรมาส 4 ปีนี้ หลังจากมีความชัดเจนเรื่องวัคซีนป้องกันแล้ว ซึ่งแต่ละประเทศรวมทั้งไทยต้องจัดระเบียบการท่องเที่ยวใหม่, สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม หลังประเทศคู่ค้าหลัก เช่นสหภาพยุโรป (อียู) สหรัฐฯ เลิกล็อกดาวน์ และอนุญาตให้จัดการแข่งขันกีฬาได้ (ยังเป็นแบบถ่ายทอดสด ไม่มีผู้ชมในสนาม) จะทำให้มีความต้องการชุดกีฬาเพื่อแข่งขันและสำหรับกองเชียร์เพิ่มขึ้น รวมถึงคนจะเริ่มกลับมาออกกำลังกายเพิ่มขึ้น

กลุ่ม L Shape เช่น ยานยนต์ คนจะใช้ของเดิม ซื้อหาคันใหม่ลดลงเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย กระทบถึงยางพาราที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตยางล้อรถยนต์ลดลงตามไปด้วย, อัญมณี (ไม่รวมทองคำ) ซึ่งถูกมองเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยความต้องการซื้อหาลดลงเพื่อเก็บเงินไว้ใช้ด้านอื่นที่จำเป็นกว่า ขณะที่หากยังไม่มียาหรือวัคซีนในการป้องกันหรือรักษาโควิด-19 ที่เห็นผลชัดเจน คนจะลดการจัดงานเลี้ยงการพบ ปะสังสรรค์ และออกงานสังคมลดลง, มันสำปะหลังจากตลาดหลักคือจีนหดตัวลงต่อเนื่อง และนํ้ามันสำเร็จรูป จากความต้องใช้ที่ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจโลก

“สรท.ยังคงคาดการณ์ส่งออกของไทยในปีนี้จะติดลบไม่ตํ่ากว่า 8% หรือมากกว่า จากการส่งออกรถยนต์ในปีนี้อาจลดลง 40-50% ซึ่งยังไม่สามารถประเมินได้ว่าการส่งออกของไทยภาพรวมไตรมาส 2 ปีนี้จะขยายตัวได้เท่าไหร่ เพราะการยกเลิกล็อกดาวน์ หรือยืดเวลาต่อล็อกดาวน์ที่เป็นอุปสรรคต่อการส่งออกของแต่ละประเทศไม่ตรงกัน”

ด้านนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การฟื้นตัวการส่งออกไทยในแต่ลักษณะยังไม่มีความแน่นอน ขึ้นกับสถานการณ์โควิดจะคลี่คลาย หรือกลับมาขยายวงกว้างซํ้าอีกแค่ไหน แต่ที่แน่ๆ เวลานี้ภาคการท่องเที่ยวชะลอตัวไปเกือบ 100% และในปีนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะโงหัวได้หรือไม่ แต่หากปีนี้ทุกอย่างดีขึ้น มีโอกาสที่อุตสาหกรรมต่างๆ จะฟื้นตัวอย่างชัดเจนในปีหน้า

หน้า 2 ฐานเศรษฐกิจ  ฉบับที่ 3,574 วันที่ 14 - 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2563