'กลินท์' นั่ง "ประธานหอการค้าไทย" ต่ออีกสมัย

20 มี.ค. 2562 | 10:06 น.

'กลินท์' นั่ง "ประธานหอการค้าไทย" ต่ออีกสมัย เร่งแผนงาน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและลดความเหลื่อมล้ำ ชี้! ภาคเอกชนห่วงโค้งสุดท้ายการเลือกตั้ง จับตาทุจริตซื้อเสียง ชวนเครือข่ายคอร์รัปชันร่วมจับตา ภาวนาให้การเลือกตั้งครั้งนี้สงบ เพื่อฟื้นความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติ

นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย เผยหลังการประชุมใหญ่สามัญสมาชิกครั้งที่ 53 พร้อมเลือกตั้งคณะกรรมการหอการค้าไทยชุดใหม่ว่า ตนได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการหอการค้าไทยต่ออีก 1 สมัย โดยกรรมการชุดใหม่จะมีวาระดำรงตำแหน่ง 2 ปี ( 2562-2563) ซึ่งจะเน้นขับเคลื่อนแผนงานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการพัฒนาและยกระดับความสามารถในแข่งขันให้สมาชิก

 

กลินท์ สารสิน

 

ส่วนสถานการณ์การเมืองในในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ขณะนี้ยังไม่มีอะไรน่ากังวล เพราะแต่ละพรรคมุ่งหน้าหาเสียงตามแนวนโยบายที่ประกาศไว้ ซึ่งมีแนวทางที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ดีนโยบายที่แต่ละพรรคประกาศไว้ต้องดูถึงวิธีการที่จะดำเนินการ ทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ที่มุ่งเน้นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ทั้งนี้ผลการเลือกตั้งที่จะออกมา ไม่ว่าพรรคใดจะได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ภาคธุรกิจไม่กังวล แต่ขอให้มีนโยบายในการบริหารประเทศด้านต่าง ๆ ใกล้เคียงของเดิมจะเป็นเรื่องที่ดี เพราะสามารถดำเนินการต่อได้ทันที แต่หากเป็นนโยบายใหม่ก็จะต้องเริ่มกันใหม่ ซึ่งทางหอการค้าไทยยืนยันพร้อมร่วมงานกับรัฐบาลใหม่

"การเลือกตั้งครั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติได้เข้ามาหารือกับหอการค้าไทย โดยเห็นว่า การเลือกตั้งเป็นเรื่องภายในประเทศของไทย แม้บางฝ่ายจะมองว่า ไม่เป็นสากล ก็ไม่มีปัญหา โดยภายหลังการเลือกตั้งขอให้สถานการณ์สงบเรียบร้อย เพื่อให้นักลงทุนต่างชาติมั่นใจดำเนินธุรกิจได้ นอกจากนี้ ยังขอให้ภาคเอกชน องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน จับตาการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างใกล้ชิด หลังมีกระแสข่าวการซื้อสิทธิ์ขายเสียงในหลายพื้นที่ เรื่องนี้ขอให้นักการเมืองได้ตระหนัก อย่าใช้ประเทศเป็นเกม"

 

'กลินท์' นั่ง "ประธานหอการค้าไทย" ต่ออีกสมัย

 

 หอการค้าไทยอยากให้รัฐบาลใหม่ที่เข้ามาบริหารประเทศเร่งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการค้าการลงทุน และต้องเร่งเข้ามาแก้ปัญหาเอสเอ็มอีที่มีปัญหาการปรับตัวไม่ทันเทคโนโลยี ซึ่งปัจจุบันมีกว่า 3 ล้านราย ส่วนนโยบายขึ้นค่าแรงของหลายพรรคทุกพรรคสามารถหาเสียงได้ แต่จะได้จริงหรือไม่ เพราะปัจจุบัน ผู้ประกอบการมีการปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิต โดยใช้เครื่องจักรเทคโนยี หรือ หุ่นยนต์ มาช่วยในการผลิตเพิ่มขึ้น หากมีการปรับเพิ่มค่าแรงมากกว่านี้ ผู้ประกอบการก็มีทางเลือกอื่น ขณะที่ต้องการให้ภาครัฐสนับสนุนการฝึกอบรมแรงงานให้มีทักษะและการใช้เทคโนโลยีในการดำเนินธุรกิจ เพราะการขึ้นค่าแรงคนที่ได้ประโยชน์สูงสุด คือ แรงงานต่างด้าว

'กลินท์' นั่ง "ประธานหอการค้าไทย" ต่ออีกสมัย