ทุกข์แรงงานไทย 44.7% ไม่มีเงินออม

01 พ.ค. 2564 | 03:29 น.

แรงงานไทย 81.8% รับผลกระทบโควิด -19 และ 52.2% มีรายได้ต่อวันลดลง โดยแรงงาน 44.7% ไม่มีเงินออม เพราะมีรายได้พอดีกับรายจ่าย ขณะที่ 40.2% ต้องกู้ ต้องหยิบยืม และส่วนใหญ่ 54.3% รอเงินช่วยเหลือ เงินเยียวยา เพื่อนำมาใช้บรรเทาผลกระทบจากโควิด -19 เผย แรงงานคาดหวัง หลังสถานการณ์แพร่ระบาดสงบ อยากให้มีการเพิ่มค่าแรงมากที่สุด และตั้งเป้าที่จะเปป็นพนักงานกินเงินเดือนที่มั่นคง

กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ สำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “หัวอกแรงงานไทยวันนี้”  โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 625 คน พบว่า แรงงานส่วนใหญ่ 81.8% ได้รับผลกระทบต่อการทำงาน ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยในจำนวนนี้ 52.2% รายได้ต่อวันลดลงจากเดิม รองลงมา 23.3% ต้องทำงานเยอะขึ้น งานหนักขึ้น และ 22.0% ไม่มี OT เงินโบนัส ขณะที่ 18.2% ไม่ได้รับผลกระทบ

เมื่อถามว่า “ในปัจจุบันรายรับจากค่าจ้างแรงงานกับรายจ่ายเป็นอย่างไร” กลุ่มตัวอย่าง 44.7% มีรายรับพอดีกับค่าใช้จ่ายจึงไม่มีเงินเหลือเพื่อเก็บออม ขณะที่ 40.2% มีรายรับไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ต้องกู้ ต้องหยิบยืม ส่วน 15.1% มีรายรับเพียงพอกับค่าใช้จ่ายและมีเงินเก็บออม

เมื่อถามว่าจัดการกับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 อย่างไร ส่วนใหญ่ 54.3% รอเงินช่วยเหลือเงินเยียวยา จากภาครัฐ รองลงมา 30.7% กู้หนี้ยืมสิน 27.8% หารายได้ หาอาชีพเสริม และ 20.7% นำเงินเก็บมาใช้  

ทุกข์แรงงานไทย 44.7% ไม่มีเงินออม
      
ส่วนเมื่อถามว่าคาดหวังอะไร หลังสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย พบว่าแรงงาน 30.9% คาดหวังว่าค่าแรงขั้นต่ำจะเพิ่มขึ้นถึง 400 บาท รองลงมา 27.5% คาดหวังว่าจะมีสวัสดิการดีขึ้น และ 26.3% คาดหวังว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น มีงานให้เลือกมากขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง