แม้จะอยู่บนเกาะ แต่การเดินทางมา ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ กระบี่ สะดวกมาก เพราะมีรถ-เรือรับส่งทั้งไปและกลับ จากสนามบินภูเก็ต รีสอร์ทจะมีรถตู้รับมาเราไปยังท่าเทียบเรือ “รอยัล ภูเก็ต มารีน่า” เพื่อขึ้นเรือสปีดโบ๊ทไปที่รีสอร์ต รอบเรือขาไปจะมี 2 รอบต่อวัน เวลา 13.00 น. และ 16.00 น.
ระหว่างรอเรือออก ที่ท่าเรือก็มีเลาจญ์ของโรงแรมให้เราจิบ ชา กาแฟ น้ำอัดลม และขนมฟรี
ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงบนเรือสปีดโบ๊ท เราก็มาถึง SAii Phi Phi Island Village กระบี่ ซึ่งต้อนรับเราด้วยหาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใสกริ๊ง และความอบอุ่นของพนักงาน เอาใจไปเลย
แลนด์สเคปของรีสอร์ตสไตล์ทรอปิคอล บนพื้นที่กว่า 170 ไร่ กลมกลืนกับธรรมชาติมาก บรรยากาศเหมือนหมู่บ้านภาคใต้ของไทย
ไหนจะชายหาดสีขาวละเอียดที่ทอดยาวถึง 800 เมตร เคียงคู่กับไปท้องทะเลอันดามันสีฟ้าใสราวคริสตัล และทิวต้นมะพร้าวพลิ้วไหว ให้ฟีลผ่อนคลายดีต่อใจ
เมื่อเช็คอินที่ “ล็อบบี้” ในบรรยากาศเปิดโล่ง โปร่งสบาย เราจะได้รับคำแนะนำให้โหลดแอปพลิเคชัน “SAii” มัดข้อมูลทุกบริการของรีสอร์ทจะอยู่ภายในสมาร์ทโฟน และยังเป็น “Mobile Concierge Application Service” ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยพกพาส่วนตัว ช่วยดูแลและสื่อสารทุกความต้องการของเรากับทางโรงแรมได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
รีสอร์ทมีห้องพักรวมทั้งหมด 201 หลัง มีตั้งแต่ห้องพักสไตล์บังกะโลร่วมสมัย ห้องสวีทริมหาด ไปจนถึงพูลวิลล่าบนเนินสุดหรู ห้องเริ่มต้น “เดอลักซ์ การ์เด้นท์ บังกะโล” แม้รูปลักษณ์ภายนอกเป็นบังกะโลแบบไทยร่วมสมัยคล้ายหมู่บ้านภาคใต้
แต่ภายในห้องก็เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยครบครัน ขนาดห้องพักกินพื้นที่มากถึง 50 ตรม. มีห้องนอนแยกส่วนกับห้องน้ำและห้องแต่งตัว พร้อมระเบียงหน้าห้องให้นั่งฟังเสียงธรรมชาติ
แต่ถ้าอยากเห็นทะเล “ห้องดีลักซ์ ซีวิว บังกะโล” หรือ “บีช ฟร้อนท์ จูเนียร์ สวีท” คือใช่เลย
หากต้องการความเป็นส่วนตัวและพรีเมี่ยมสุด แนะนำให้เลือกพักวิลล่าบนเนินเขา “ห้อง“ฮิลไซด์ พูลวิลล่า” ขนาด 125 ตารางเมตร พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว น่าจะเหมาะกับคู่รัก
แต่ถ้ามาเป็นครอบครัว หรือแก๊งเพื่อนซี้ ห้องพักแบบ “ฮิลไซด์ พูลวิลล่า 2 ห้องนอน” ขนาด 150 ตารางเมตร ถือว่าตอบโจทย์
ฟ้าใสทะเลสวยขนาดนี้ทำเราอดใจไม่ไหว ไปปักหมุดว่ายน้ำสระ เล่นน้ำทะเล ถ่ายรูปมุมเก๋ไปทั่ว รีสอร์ท ชอบสุดๆกับมุมนั่งพักผ่อนชมทะเลมากมาย ทั้งเปล เก้าอี้ชายหาด เตียงชายหาด หลากสไตล์
สระว่ายน้ำที่นี่มี 2 สระ ถ้าใกล้ล็อบบี้ก็จะเป็น “Lazy Pool” สระนี้ขนาดไม่ใหญ่มาก เลยไม่พลุกพล่าน ได้ฟิวว่ายน้ำไปด้วยชมทะเลไปพราง
ไกลออกไปจนเกือบสุดปลายหาด ก็จะเป็น “Fun Pool” สระว่ายน้ำริมทะเล ฟรีฟอร์มขนาดใหญ่ มีสไลเดอร์เล็กๆ และสีสันความสนุกมากมาย
ปักหมุดต่อกันที่แหล่งไดนิ่งภายในโรงแรม “อาปี” (Api)” ห้องอาหารออลเดย์ไดนิ่งริมทะเล ตลอดทั้งวัน ตั้งแต่ไลน์บุฟเฟ่ต์อาหารเช้า ไปจนถึงเมนูอาหารนานาชาติสำหรับมื้อกลางวัน
ส่วนมื้อค่ำ ทุกสุดสัปดาห์จะมีการเสิร์ฟเป็นบุฟเฟ่ต์ที่แตกต่างกันไป อาทิ ซีฟู้ด อาหารไทย และอาหารนานาชาติหลากหลาย
ส่วนใครชอบบรรยากาศอาหารไทย การดินเนอร์ ณ ห้องอาหาร “เรือนไทย” (Ruan Thai) ได้ฟีลแบบสำรับไทย
หรืออยากเปิดประสบการณ์ใหม่กับทานอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน รสชาติเข้มข้นของอาหารยุโรปตอนใต้ ผสมผสานกับเครื่องเทศแปลกใหม่ จากเอเชียตะวันตกและแอฟริกาเหนือ
นี่เลย ห้องอาหาร “มิส โอลีฟ ออยล์” (Miss Olive Oyl) ทานไปดื่มด่ำวิวทะเล ชอบมาก
ส่วน “มิสเตอร์ ต้มยำ” (Mr. Tomyam) ก็เป็นร้านอาหารและบาร์ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากต้นกำเนิดอาหารไทย ให้รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของอาหารถิ่น เขากับอาหารยุโรปยอดนิยม กินสบายๆริมสระว่ายน้ำและวิวทะเล
หรือจะเอาฟีลแบบคาเฟ่ “Bean/Co” มีเบเกอรี่โฮมเมด ขนมหวาน ชา กาแฟ เครื่องดื่มเย็นๆ ทานเก๋ๆริมทะเลได้บรรยากาศ
ทั้งรีสอร์ทยังมี“ศูนย์การเรียนรู้ทางทะเล”(The Marine Discovery Centre) อยู่ภายในรีสอร์ท มีนักวิทยาศาสตร์ทางทะเลดูแลอย่างใกล้ชิด และเปิดให้เราได้เข้าไปเรียนรู้กิจกรรมการอนุรักษ์สัตว์ทะเลที่ใกล้สูญพันธุ์ของประเทศไทย
อาทิ ปลูกปะการัง อนุบาลปลาการ์ตูน อนุบาลลูกปลาฉลาม ก่อนที่จะปล่อยลงสู่ทะเลอีกด้วย ที่พักดีแถมยังใส่ใจสิ่งแวดล้อม ดีต่อใจมากๆ
ไหนๆมามาเช็คอิน “ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ” ไม่เพียงได้ฟีลวันพักผ่อนเงียบสงบเท่านั้น ที่นี่ยังมีกิจกรรมหลากหลาย ได้เราได้สัมผัสประสบการณ์เติมเต็มความสุขใจ มาที่เดียวเที่ยวได้ครบทุกรูปแบบเลย
ในทุกเย็นวันเสาร์ บนชายหาดส่วนตัวของรีสอร์ตอันเงียบสงบ โดยเฉพาะในช่วงธันวาคมถึงเมษายนที่มีท้องฟ้าโปร่งเกือบตลอดปี การได้ชมดาวในแบบใกล้ชิดและเข้าใจหมู่ดาวและจักรวาล
ที่นี่มีกิจกรรม “Astro Moments” จัดขึ้นเดือนละครั้ง ซึ่งจะมีผู้เชี่ยวชาญจาก The BCIS Planetarium จากโรงเรียนนานาชาติภูเก็ต BCIS มานำทีมถ่ายทอดความรู้เรื่องกลุ่มดาว ดาวเคราะห์ และจักรวาลอย่างเข้าใจง่าย ซึ่งเปิดให้เราร่วมกิจกรรมได้ฟรี
แต่หากอยากดูดาวไปด้วย และดินเนอร์ริมหาด ก็จ่ายเพิ่ม ซึ่งก็จะมาพร้อมตะกร้าปิกนิกสุดหรู ที่มีเมนูสไตล์เอเชียน เช่น ตอร์ตียาห่อไก่ผัดกะเพรา คอหมูอบสมุนไพร และสปาร์กลิงไวน์หนึ่งขวด จิบเคล้าบรรยากาศสุดโรแมนติกริมหาด
ทั้งที่ดีมากๆ คือ รีสอร์ตเพิ่งเปิดตัวคู่มือ Zodiac-to-Experience Guide สำหรับลูกค้าที่เข้าร่วมกิจกรรมดูดาว ที่จะแนะนำโปรแกรมกิจกรรมเฉพาะบุคคล เพื่อเสริมพลังและความสมดุลให้สอดคล้องกับราศีเกิดของแต่ละคน
อาทิ ผู้ที่เกิดราศีเมษ เป็นคนที่เปี่ยมด้วยพลังและความชอบในการผจญภัย สามารถเลือกกิจกรรมใช้แรงอย่างพายคายัค แพดเดิลบอร์ด หรือดำน้ำชมแนวปะการัง ราศีกรกฎ เป็นผู้มีสัญชาตญาณอ่อนโยนและรักการดูแลผู้อื่น เหมาะกับการเดินสำรวจเส้นทางธรรมชาติ และเรียนรู้โลกใต้ทะเลที่ศูนย์การเรียนรู้ทางทะเล เป็นต้น
กิจกรรมผจญภัยที่ไม่ควรพลาดของที่นี่ คือ การพายเรือคายักเข้าไปชมผืนป่าโกงกางในช่วงน้ำทะเลขึ้น ซึ่งที่นี่เป็นเกาะเดียวที่มีป่าโกงกางเนอร์เซอรี่สำหรับสัตว์น้ำ และทางโรงแรมยังจัดกิจกรรมปลูกป่าโกงกางอย่างต่อเนื่อง
ไฮไลท์ของการมาเที่ยวเกาะพีพี ต้องพลาดไม่ได้กับการจองในแบบครึ่งวัน หรือ วันเดย์ทริป เพื่อออกไปดำน้ำเที่ยวเกาะพีพี อ่าวปิเละ อ่าวมาหยา
โรงแรม มีโปรแกรมทัวร์หลากหลายในการออกทะเลให้เราเลือกได้ตามชอบ จะนั่งเรือหางยาวเฉพาะกรุ๊ปเราไปเที่ยว ไปดำน้ำตื้น ไปดูน้องลิงบนเกาะก็ดีงาม หรือ จะดำน้ำลึก ในแบบไพรเวท ทริป ก็มีแหล่งดำน้ำในจุดขึ้นชื่อมากมาย
พักที่นี่ได้ประสบการณ์กินดื่มเที่ยวเลอค่าสุดๆในเวเคชั่นทริปนี้ เก็บเกี่ยวความรู้สึกดีๆกลับไปเต็มๆ