ผุดคอมมิวนิตี้ฯ‘เมส ทองหล่อ’รับชีวิตสโลว์ไลฟ์

แฮปปี้บิลเลียน ชูคอมมิวนิตี้ มอลล์คอนเซปท์ใหม่ ทุ่ม 800 ล้านผุด "เมส ทองหล่อ" จับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ ด้วยโมเดลแนวสูง 5 ชั้นใจกลางเมือง แหล่งรวมแฮงเอ้าท์ครบครันทั้งร้านร้านอาหาร,แฟชั่นไลฟ์สไตล์ แบบอินดอร์ พร้อมเปิดให้บริการเฟสแรก 6 มิถุนายนนี้ มั่นใจคืนทุนได้ใน 7 ปี

นายปิพณ พึ่งบุญพระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แฮปปี้บิลเลียน จำกัด เจ้าของโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ "เมส ทองหล่อ" เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า บริษัทใช้งบประมาณ 800 ล้านบาทในการพัฒนาที่ดินในย่านทองหล่อ ซอย 4 บนพื้นที่ 1.7 ไร่ให้เป็นคอมมิวนิตี้ มอลล์แห่งใหม่ ภายใต้ชื่อ "เมส ทองหล่อ" ซึ่งเป็นโครงการแนวสูง จำนวน 5 ชั้น ที่เน้นความโปร่ง โล่ง และสบาย เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในปัจจุบันที่นิยมใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ โดยคอมมูนิตี้มอลล์แห่งนี้เป็นโครงการแบบ มิกซ์ยูส รองรับทุกความโดดเด่นในสไตล์ ชูจุดขาย "อินดอร์" ทั้งหมด เพื่อปรับให้เข้ากับปัจจัยเรื่องสภาพอากาศ จึงไม่มีปัญหาต่อลูกค้า นับเป็นการฉีกแนวจากคอมมูนิตี้มอลล์ส่วนใหญ่ที่เน้นในรูปแบบของเอาท์ดอร์ (Outdoor) หรือ โอเพ่นแอร์

ทั้งนี้ภายในโครงการแบ่งเป็นโซนตามชั้นต่างๆ ได้แก่ ชั้น1 ไลฟ์สไตล์คาเฟ่, คอฟฟี่ช็อปและเบเกอรี่, ชั้น 2 ร้านอาหารนานาชาติ, ชั้น 3 ร้านเสริมความงามและสินค้าแฟชั่น, ชั้น 4 (อยู่ระหว่างการหาข้อสรุปด้านคอนเซ็ปต์) รวม Roof top ชั้นบนสุด ก็จะเป็น 5 ชั้นตามที่บอกไป และแบ่งพื้นที่เป็น 60% ร้านอาหาร (Dining) และในส่วนของไลฟ์สไตล์แฟชั่น 40% โดยเฟสแรก จะเปิดให้บริการ 14 ร้านค้า จะเปิดให้บริการเต็มศูนย์ได้ในไตรมาส 4

"มองว่าตลาดคอมมิวนิตี้มอลล์บ้านเรา ยังสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากความต้องการที่มีอยู่ ซึ่งหลายคนอาจมองว่าตลาดตรงนี้มาถึงจุดอิ่มตัวทำให้ผู้ประกอบการคอมมิวนิตี้มอลล์หลายรายต้องปิดกิจการไปเมื่อช่วงที่ผ่านมา แต่มองว่าคอมมิวนี้มอลล์เหล่านั้นยังขาดความสดใหม่ ซึ่งการทำตลาดต้องตื่นตัวตลอดเวลาเพราพฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยเบื่อง่าย และชื่นชอบของใหม่ และนั้นคือสิ่งที่เราพยายามนำเสนออยู่ตลอดเวลา ซึ่งก็เปรียบเสมือนแบรนด์ของเราเป็นคนรุ่นใหม่ที่ต้องแอกทีฟตลอดเวลา หรือเรียกว่าเรากำลังเล่นกับพฤติกรรมผู้บริโภค เพราะผู้บริโภคกำลังมองหาอะไรใหม่ๆ สรรหาอะไรที่ตัวเองชอบมากขึ้น เดี๋ยวนี้คนจะไม่ได้มองร้านอาหารเป็นแค่ที่ทานข้าวอีกต่อไป เป็นสถานที่พบปะ สังสรรค์ หรือแม้กระทั่งประชุม และเจรจาธุรกิจดังนั้นจึงเชื่อว่าจะสามารถสร้างการรับรู้และความสนใจแก่กลุ่มเป้าหมายได้ "

ทั้งนี้ได้เตรียมงบประมาณ 30-50 ล้านบาทสำหรับจัดกิจกรรมทางการตลาด เพื่อสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ไม่ใช่เพียงในย่านทองหล่อเท่านั้น หากแต่ยังวางเป้าหมายในขยายตลาดและสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มคนทั่วกรุงเทพให้มาเข้าใช้บริการ โดยแบ่งเป็นงบประมาณ 20 ล้านบาท สำหรับงานเปิดตัว และ แคมเปญโปรโมชั่น รองรับลูกค้าที่เข้ามาที่ศูนย์ ที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 มิถุนายนนี้ ไม่ว่าจะเป็น การทำโปรโมท 360 องศา ทั้งโปรโมชั่นกำไรให้กับลูกค้า 2 โปรโมชั่นใหญ่เป็นหลักคือ กลางปีและปลายปี

นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นเสริมอื่นๆ ต่อเนื่อง ทั้ง โปรโมชั่นตามรูปแบบร้าน โปรโมชั่นตามเทศกาลต่างๆ ประเดิมโปรโมชั่นแรก เปิด เมส ทองหล่อ ลดทั้งศูนย์ 15% เพื่อให้ลูกค้าเข้ามาที่ศูนย์ ใช้บริการร้านค้าในศูนย์ เช็คอิน โชว์แค่พร้อมรับส่วนลด 15% ตั้งแต่วันที่ 7-13 มิถุนายนนี้ ควบคู่กับการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆโดยจะให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก เนื่องจากสามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้มากกว่า

รวมทั้งเสริมแผนการตลาดรองรับช่วงอื่นที่ไม่ใช่ไพร์มไทม์ให้ผู้ประกอบการในศูนย์ขายได้มากขึ้น คือ ศูนย์มีเวลาเปิดปิดปกติ คือ 10.00 – 22.00 แต่บริษัทมีการปรับกลยุทธ์ใหม่รองรับเพิ่ม โดยการขยายเวลาเปิดของแต่ละร้านให้เร็วขึ้นและปิดดึกขึ้นเอาใจคนชอบใช้ไลฟ์สไตล์ยามค่ำคืน ทั้งนี้ เมส ทองหล่อ ตั้งเป้าว่าน่าจะคืนทุนภายใน 7 ปี และสามารถชิงส่วนแบ่งทางการตลาดของ คอมมูนิตี้มอลล์ ในเมืองไทยได้ที่ 2-3%

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,159 วันที่ 22 - 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2559