"บิตคอยน์"ฟื้นตัวแตะ 3.94 หมื่นดอลลาร์

25 พ.ค. 2564 | 04:28 น.

ราคาบิตคอยน์ฟื้นตัวแตะที่ 39,400 ดอลลาร์ หลัง "อีลอน มัสก์" หนุนใช้พลังงานสะอาดขุดเหรียญคริปโต

 

ราคาบิตคอยน์ เคลื่อนไหวเช้านี้ดีดตัวขึ้นราว 1% แตะที่ 39,400 ดอลลาร์ ในการซื้อขายที่ตลาดเอเชียช่วงเช้าหลังจากนายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัทเทสลาได้ทวีตข้อความสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดในการขุดเหรียญเงินคริปโต

"ผมได้พูดคุยกับกับบรรดาธุรกิจขุดเหมืองบิตคอยน์ในอเมริกาเหนือ พวกเขาให้คำมั่นว่าจะใช้พลังงานสะอาดทั้งในปัจจุบันและอนาคต นอกจากนี้ พวกเขาจะขอให้เหมืองอื่นๆทำแบบเดียวกันด้วย ซึ่งถือเป็นแนวโน้มที่ดี" นายมัสก์ระบุผ่านการทวีตข้อความเมื่อวานนี้

นายมัสก์ และนายมิเชล เซย์เลอร์ นักลงทุนบิตคอยน์ชื่อดังได้ทวีตข้อความว่า พวกเขาได้หารือทางโทรศัพท์ร่วมกับบรรดาธุรกิจขุดเหมืองบิตคอยน์ในอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมถึงนายไมเคิล โนโวแกรทซ์ ผู้บริหารบริษัท Galaxy Digital และผู้บริหารของบริษัท Hut 8 Mining Corp เพื่อหารือเรื่องความโปร่งใสในการใช้พลังงาน

การทวีตข้อความดังกล่าวของนายมัสก์ ช่วยหนุนราคาบิทคอยน์ฟื้นตัวขึ้นในช่วงเช้านี้ หลังจากราคาทรุดตัวลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา โดยมีสาเหตุมาจากการที่นายมัสก์ ประกาศงดรับสกุลเงินบิตคอยน์ในการซื้อรถยนต์ของเทสลา โดยระบุถึงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการที่ต้องใช้พลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลในการขุดเหรียญบิตคอยน์

HSBC เมินลงทุน"บิตคอยน์"

ขณะที่นายโนเอล ควินน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ เปิดเผยว่า เอชเอสบีซียังไม่มีแผนที่จะเริ่มเปิดธุรกิจซื้อขายสกุลเงินคริปโตหรือขายสกุลเงินดิจิทัลให้กับลูกค้าของธนาคารแต่อย่างใด

ซีอีโอธนาคารเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์  กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า การที่เอชเอสบีซียังไม่มีแผนที่จะลงทุนในบิตคอยน์นั้น เนื่องจากความผันผวนของราคาบิตคอยน์ ประกอบกับการที่ธนาคารไม่สนับสนุนสกุลเงินบิทคอยน์ให้มีสถานะเป็นสินทรัพย์ในธุรกิจบริหารจัดการความมั่งคั่งของธนาคาร

การแสดงความเห็นของเอชเอชบีซีเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่จีนซึ่งเป็นตลาดการลงทุนเชิงกลยุทธ์ของเอชเอสบีซีนั้น ยังคงเดินหน้ากวาดล้างสกุลเงินคริปโต โดยรัฐบาลจีนสั่งห้ามไม่ให้สถาบันการเงินให้บริการเกี่ยวกับการทำธุรกรรมสกุลเงินคริปโต ซึ่งรวมถึงการซื้อขาย, การชำระบัญชี และการออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินคริปโต เนื่องจากรัฐบาลจีนกังวลว่า ความผันผวนของสกุลเงินคริปโตจะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของทรัพย์สินประชาชน และจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและการเงินของจีน

นอกจากนี้ ธนาคารกลางจีนได้ออกแถลงการณ์เตือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า สกุลเงินคริปโตไม่สามารถใช้แทนเงินสดได้