ก่อนที่จะมีการ “เลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล” (สท.) และ “นายกเทศมนตรี” ในวันอาทิตย์ที่ 28 มี.ค.2564
วันนี้(27 มี.ค.64) ได้มีคดีการ “เลือกตั้งเทศบาล” เกิดขึ้น เมื่อ นายนัฐพงษ์ เวียงทอง ผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลตำบลบ้านกลาง เบอร์ 13 ทีมอีสระ เขต 1 ได้เข้าพบ ร.ต.อ.วีรวัฒน์ บุญแพง รองสารวัตรสอบสวน สภ.สวนพริกไทย อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี เพื่อแจ้งความลงประจำวัน กรณีพบการซื้อเสียงในหมู่บ้านมณีรินทร์ (เลค) – ลากูน พื้นที่เทศบาลตำบลบ้านกลาง และเงินสด จำนวน 1,000 บาท พร้อมคลิปวงจรปิดเพื่อให้ไว้เป็นหลักฐาน เพื่อนำไปร้องต่อกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
นายนัฐพงษ์ เวียงทอง เปิดเผยว่า พบมีการซื้อเสียงในพื้นที่หาเสียงของตนเองรวมถึงบ้านของตนเองด้วย โดย นางพรรณ และ นางบังอร ทั้ง 2 คน ได้นำเงินใส่ซองสีขาวมาให้กับ ป้าของตนเอง เพื่อให้เลือกผู้สมัครตามโบชัวร์ ที่นำมาให้ ซึ่งเป็นหลักฐานเพียงส่วนหนึ่ง
จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่ซื้อเสียงให้ถึงที่สุด ซึ่งตนเองได้นำหลักฐานประกอบด้วย ซองใส่เงินสด โบชัวร์ และภาพคลิปวงจรปิด มาเป็นหลักฐาน ที่แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรม โดยเข้ามาครั้งแรกวันที่ 17 ก.พ.64 จะมาจดชื่อคนภายในบ้านก่อน จากนั้นวันที่ 18 มี.ค.64 นางบังอรได้นำเงินสดใส่ซองมาให้ที่บ้านจำนวน 3 ซอง ตามจำนวนรายชื่อที่ได้จดไป 3 ราย จากนั้นป้าได้บอกให้ตนเองทราบ จึงได้ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดที่บ้าน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย
“ขนาดผมเองเป็นผู้สมัครลงสมาชิกเทศบาลตำบลบ้านกลาง ในนามอิสระ เขาได้ทำกันอย่างนี้ ไม่มีความเกรงกลัวกฎหมายกันเลยแล้วชาวบ้านธรรมดาจะเป็นอย่างไร ทุกท่านก็น่าจะคิดได้ หรืออาจจะมีการทำแบบนี้กันจนเคยชินทุกๆ ครั้งที่มีการเลือกตั้ง ไม่ว่าการเมืองระดับท้องถิ่น หรือการเมืองระดับชาติ ดูถูกเหยียดหยามชาวบ้านเหมือนเป็นผักปลาใช้เงินซื้อกันอย่างเดียว แล้วจะพัฒนาความเป็นอยู่ของชาวได้อย่างไร บ้านเมืองยังมีกฎหมายอยู่หรือไม่ ก็ขอฝากถามผ่านสื่อมวลชนไปเลย” นายนัฐพงษ์ ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี นอกจากเทศบาลตำบลบ้านกลาง ที่พบการซื้อเสียงแล้ว ในเทศบาลอื่นๆ ก็พบการซื้อเสียงด้วย โดยซื้อเสียงหัวละ 1,000 บาท และให้เลือกทั้งนายกเทศมนตรี และ สมาชิกสภาเทศบาล อีก 6 คน
ทั้งนี้บางเทศบาล พบว่า ผู้สมัครต่างฝ่ายต่างซื้อเสียง ทำให้บางคนที่รับเงิน ก็รับเงินของผู้สมัครทั้ง 2 ฝ่าย
าวที่เกี่ยวข้อง :