“ติ๋ม ทีวีพูล”เฮ! ศาลให้กสทช.คืนเงินประกัน 1,750 ล้าน

08 มี.ค. 2564 | 13:07 น.

“ติ๋ม ทีวีพูล”เฮ! ศาลปกครองสูงสุดให้กสทช.คืนเงินประกัน 1,750 ล้าน-ค่าธรรมเนียม 151.7 ล้าน ชี้กสทช.ทำผิดสัญญาจริง บกพร่องในการบริหารทีวีดิจิทัล

วันนี้ (8 มี.ค.64) ที่ศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ หลังจากฟังคำพิพากษา ศาลปกครองสูงสุด ในคดีที่บริษัท ไทยทีวี จำกัด (ผู้ฟ้องคดี) โดย นางพันธุ์ทิพา ศกุนต์ไชย กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท ไทยทีวี จำกัด หรือ เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล กับ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ที่สองฝ่ายอุทธรณ์ แล้ว  

นางพันธุ์ทิพา หรือ ติ๋ม ทีวีพูล เปิดเผยว่า คดีนี้สิ้นสุดแล้ว ศาลปกครองสูงสุดได้ตัดสินให้ กสทช. ผิดสัญญาจริง และให้คืนแบงค์การันตี (หนังสือค้ำประกันของธนาคารกรุงเทพ จำกัด มหาชน) ให้เราทั้งหมดตั้งแต่งวดที่สองถึงงวดที่หกเป็นเงิน 1,750 ล้านบาท และให้คืนค่าธรรมเนียมงวดแรกไปเกินอีก 151,700,000 บาท ส่วนงวดที่สองที่ธนาคารกรุงเทพไปจ่ายแทนเราอีก 384 ล้านบาทก็ให้ กสทช คืนเงินให้กับธนาคารกรุงเทพ ทั้งหมดต้องทำให้เสร็จภายใน 60 วัน ส่วนค่าเสียหายศาลปกครองสูงสุดไม่ได้ให้กับเรา

“ยอมรับทุกสภาพที่ศาลตัดสินคดี อย่างน้อยเราก็ได้สู้จนถึงที่สุดแล้ว อะไรที่ควรจะทำเราก็ได้ทำหมดแล้ว ซึ่งจะเป็ยบรรทัดฐานสำหรับกรณีที่เอกชนไปทำสัญญากับรัฐ ว่าเราก็มีสิทธิที่จะเรียกร้องและยุติสัญญาได้ และสามารถที่จะเรียกร้อยค่าเสียหายส่วนจะได้หรือไม่ได้ เหมือนคดีนี้เราไม่ได้ค่าเสียหาย แต่ก็สามารถได้ LG (เงินค้ำประกันธนาคาร) คืนหมด”  

พอใจ สำหรับการรอคอยมาเป็นระยะเวลายาวนานมาก ใช้เวลาต่อสู้คดีมาทั้งหมด 5 ปี 10 เดือน คิดว่าเราชนะคดี เพราะศาลชีชัดว่า กสทช.ทำผิดสัญญาหลายข้อมาก เช่น การแจกคูปองช้าไป 6 เดือน การประชาสัมพันธ์กล่องฯ ที่ ประชาชนไม่ได้รับความรู้ในเรื่องนี้ รวมทั้งช่อง 11 ไม่สามารถตั้งเครือข่ายให้ก็ทำให้ลูกค้าขาดความเชื่อมั่นในการทำงานของ กสทช. ทำให้ลูกค้าไม่มาลงโฆษณาได้ รวมทั้งการประชาสัมพันธ์ก็ไม่ทั่วถึง

“ต้องขอขอบคุณศาล และเพื่อนๆ ในวงการทุกคนที่ให้กำลังใจตลอดมา รวมทั้งลูกน้องทุกคนที่รอคอยกันมายาวนานทุกอย่างเราจะเดินต่อไป คดีทุกอย่างกับ กสทช.ก็ยุติลงแล้ว รอคืน LG ถ้าคืนไม่ได้ก็ต้องคืนเป็นเงินสด 1,750 ล้านบาทกับเรา ตอนนี้เราจะเดินหน้ายุค 4G แล้วก็ 5G บุกต่อในเรื่องโซเชียลทุกแพลตฟอร์ม และดูพาร์ทเน่อร์จากต่างประเทศด้วยที่จะสร้างแพลตฟอร์มใหม่ๆ ให้เกิดในเมืองไทยต่อไป ในชื่อ ทีวีพูล คนติดตามอยู่ 7.8 ล้าน และอื่นๆ เช่น ข่าวชาวบ้าน สไปซี่ แก้เซ็ง  คนติดตามเพจอยู่ 1.5 ล้านแล้วเวลานี้ 

เมื่อก่อนคนเรา 400 กว่าคน เดี๋ยวนี้เหลือแค่สิบกว่าคนทำงานกันบริษัท ที่ยืนหยัดมาได้ในวันนี้ เราจะเอาเงินมาพัฒนาบุคคลกร แต่จะไม่กลับไปทำทีวีแบบเต็มร้อย แต่อาจจะมีบ้างเนื่องจากคนรุ่นเก่ายังมีดูทีวีกันอยู่ เราคงเข้าไปจับจองพื้นที่ในทีวีบ้าง เราไม่มีปัญหากับ กสทช จะไม่ทำให้ใครเดือดร้อนแล้ว
5 ปีที่หายหน้าไป ตนก็ไปให้ความสนใจในเรื่องของกัญชา และ กัญชง ใบกระท่อม ตนจะไปทำเป็นสาธารณกุศลในเรื่องเหล่านี้

                                                           เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล

 ทั้งนี้  ศาลปกครองสูงสุด ได้พิพากษาในคดีที่บริษัท ไทยทีวี จำกัด โดยนางพันธุ์ทิพา  ศกุณต์ไชย หรือติ๋ม ทีวีพูล ยื่นฟ้อง กสทช. กรณีมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ โดยพิพาษาให้คณะกรรมการ กสทช. คืนเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่แก่บริษัท ไทยทีวี จำกัด จำนวน 151,730,755.58 บาท และให้คืนหนังสือค้ำประกันของธนาคารกรุงเทพจำนวน 16 ฉบับ ที่บริษัทไทยทีวี จำกัด วางเพื่อค้ำประกันการชำระเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ของงวดที่ 2 ถึงงวดที่ 6 ให้แก่ผู้ฟ้องคดี หากคืนไม่ได้ให้ชดใช้จำนวนเงินตามหนังสือค้ำประกันที่ไม่สามารถคืนได้นั้นให้แก่ผู้ฟ้องคดี ทั้งนี้ ให้ชำระให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน นับแต่คดีถึงที่สุด 

เนื่องจากศาลเห็นว่าบริษัทไทยทีวี มีสิทธิ์แจ้งยกเลิก การประกอบกิจการได้ตาม ที่เงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาต ข้อ17 กำหนดไว้ให้ทำได้ 

ส่วนการบอกเลิก สัญญา ของบริษัทไทยทีวีเป็นไปโดยชอบด้วยเหตุผลหรือไม่เห็นว่าการที่บริษัทไทยทีวี จะสามารถใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลอันเป็นสิทธิ์ตามสัญญาได้อย่างมีประสิทธิภาพจำเป็นอย่างยิ่งที่กสทช.จะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพ  

เมื่อข้อเท็จจริงในคดีปรากฏว่า หลังบริษัทไทยทีวีได้ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ในงวดที่ 1 ทั้ง 2 ช่องรายการแล้ว แต่ปรากฏว่า การดำเนินการ ของกสทช.ในการเปลี่ยนผ่านระบบการรับส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์จากระบบอนาล็อก มาเป็นระบบดิจิทัลเกิดความล่าช้าไม่เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ 

โดยกสทช. ให้ถ้อยคำยอมรับว่ากรมประชาสัมพันธ์ไม่ได้ดำเนินการติดตั้งและเปิดให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลเนื่องจากติดขัดเรื่องงบประมาณ อีกทั้งการแจกคูปองเป็นไปอย่างล่าช้าถึง 6 เดือน นับแต่วันออกใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ฯ การประชาสัมพันธ์การเปลี่ยนผ่านระบบโทรทัศน์ทำได้ไม่ทั่วถึง ประชาชน ไม่เข้าใจวิธีการเปลี่ยนผ่านระบบโทรทัศน์รวมทั้งการใช้คูปอง  เกิดความสับสนกับขั้นตอนและกระบวนการแจกคูปอง หยุดไม่สามารถแจกคูปองให้กับประชาชนได้ครบทุกพื้นที่ ทำให้การแลกซื้อเครื่องรับสัญญาณเป็นไปอย่างล่าช้า 

กรณีดังกล่าวจึงย่อมส่งผลต่อแผนการลงทุนของบริษัทไทยทีวีทั้งในด้านภาระต้นทุนและระยะเวลาการคืนต้นทุน รวมถึงยังมีความบกพร่อง ในเรื่องการควบคุมคุณภาพการรับส่งสัญญาณ ให้ผู้ใช้บริการสามารถรับชมบริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลได้ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่อยู่ในความรับผิดชอบของ กสทช.
 

เมื่อสัญญาพิพาทเป็นการตกลงให้ บริษัทไทยทีวี ซึ่งเป็นเอกชนนำทรัพยากรสื่อสารของชาติไปหาประโยชน์โดยรัฐได้รับประโยชน์จากค่าใช้คลื่นความถี่แต่ทรัพยากรดังกล่าวไม่ได้มีลักษณะที่เป็นรูปธรรมใช้สิ้นเปลืองหมดไป เหมือนทรัพยากรธรรมชาติโดยทั่วไป แต่เป็นคลื่นความถี่ซึ่งไม่อาจจับต้องได้ ที่รัฐอาจได้รับคืนมาเพื่อใช้ประโยชน์หรือให้เอกชนอื่นประมูลเพื่อนำไปหาประโยชน์ต่อไปได้ 

รัฐจึงไม่สมควรแสวงหากำไรจากเอกชนมากเกินสมควร ดังนั้นเมื่อรัฐได้คลื่นความถี่กลับคืนมาแล้ว การได้รับค่าธรรมเนียมจึงต้องสอดคล้องกับที่ บริษัทไทยทีวีได้ใช้ประโยชน์ไปแล้วตามความเป็นจริงและสอดคล้องกับคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 4/2562 ลงวันที่ 11 เมษายน 2562 ที่กำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตสามารถคืนใบอนุญาตและมีสิทธิ์ได้รับค่าชดเชย 

เมื่อข้อเท็จจริง ปรากฏว่าบริษัทไทยทีวีได้ใช้ คลื่นความถี่ ที่ได้รับอนุญาตไปเพียงช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งเป็นระยะเวลาอันสั้นกว่าที่กำหนดในใบอนุญาตมากจึงไม่สมควรต้องชำระค่าธรรมเนียมมากกว่าประโยชน์ที่ได้รับสมควรกำหนดให้บริษัทไทยทีวี ต้องชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ตามที่ได้ใช้ประโยชน์ตามความเป็นจริงโดยคำนวณเป็นค่าธรรมเนียมปีละเท่าๆกัน เมื่อบริษัทไทยทีวีมีหนังสือลงวันที่ 25 พ.ค 58 ขอยกเลิกใบอนุญาตประกอบกิจการ ทั้ง 2 ช่องรายการหลังจากนั้นได้ชี้แจงการยุติการให้บริการผ่านการขึ้นอักษรตัววิ่งจอโทรทัศน์ทั้ง 2 ช่องรายการตลอดวันตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย 58 ถึง 24 ก.พ. 58 บริษัทไทยทีวี จึงไม่สมควรต้องชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ตั้งแต่วันดังกล่าว จึงมีคำพิพากษา ให้กสทช คืนเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่แก่บริษัทไทยทีวีตามจำนวนดังกล่าว