“เสรีพิศุทธ์”จ่อยื่นศาลรธน.ซ้ำตีความสถานะส.ส."สิระ"

08 ม.ค. 2564 | 09:17 น.

“เสรีพิศุทธ์"จ่อชงศาลรธน.ซ้ำ ตีความสถานะส.ส.ของ "สิระ เจนจาคะ" ชี้พิรุธส.ส.ถอนชื่อ ด้าน“เพื่อไทย”เอาด้วยร่วมลงชื่อหนุนถอดถอน ชี้พบข้อเท็จจริงที่ศาลควรวินิจฉัย

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องกรณีขอให้วินิจฉัยคุณสมบัติความเป็นส.ส. ของ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ เพราะมี ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยถอนชื่อ 2 คน ทำให้ไม่ครบเกณฑ์ตามรัฐธรรมนูญกำหนด ว่า ตนได้ตรวจสอบรายละเอียดภายในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร แล้วพบว่า นายสิระ เคยมีคดีที่ถูกลงโทษถึงจำคุก คือ ความผิดเกี่ยวกับฉ่อโกง และลงโทษจำคุก 4 เดือน และยังมีอีกหลายคดีที่แสดงถึงพฤติกรรมของนายสิระ เช่น คดีเช็ค, ขับรถชนคนตาย, ทำร้ายร่างกาย ในคดีที่ผ่านมา นายสิระ ยอมรับสารภาพทุกคดี 


ยืนยันว่าเอกสารที่ทำไปถูกต้องครบถ้วน และได้ติดตามอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้มีข้อผิดพลาด ทั้งนี้เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2563 นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ มีหนังสือตอบกลับ ว่า มีการลงลายมือชื่อของส.ส.ไม่เหมือนที่ให้ไว้กับสำนักงานเลขาธิการสภาฯ จำนวน 2 คน และขอถอนชื่อ อีก 10 คน ทำให้เหลือส.ส.เข้าชื่อ จำนวน 50 คน จึงส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ 


"ผมสงสัยกรณีการเปรียบเทียบลายมือชื่อไม่เหมือนกัน ให้ใครตรวจสอบ อีกทั้งผมยืนยันว่า ให้ส.ส.ลงลายมือชื่อที่สภาผู้แทนราษฎร โดยแนบคำร้องให้อ่านอย่างชัดเจน ทั้งนี้การลงลายมือชื่ออาจไม่เหมือนต้นฉบับ เพราะความแตกต่างของโต๊ะที่เซ็นต์เอกสาร เช่น บางคนเซ็นต์ที่โต๊ะทานกาแฟ, โต๊ะอาหาร คนที่ตรวจสอบบอกว่าลายมือไม่เหมือน แต่ได้สอบถาม 2 คนนั้นหรือไม่ หรือ สอบถามผมหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ผมเสียหาย ทั้งนี้การถอนนั้น ผมไม่ทราบว่าสาเหตุคืออะไร ผมขอสมมติว่าอาจมีการให้ผลตอบแทน หรือการข่มขู่เกิดขึ้นก็ได้ และยอมรับว่าเป็นเอกสิทธิ์ แต่ผมจะทำหนังสือถึงนายชวน เพื่อให้ชี้แจงรายละเอียดอีกครั้ง” 

                                                                “เสรีพิศุทธ์”จ่อยื่นศาลรธน.ซ้ำตีความสถานะส.ส."สิระ"


 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวด้วยว่า หลังจากรับทราบว่ามีบุคคลถอนชื่อ จึงเร่งเติมรายชื่อ โดยเป็นส.ส.พรรคก้าวไกล จำนวน 5 คน ขณะที่ 2 ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่นางอนุรักษ์ บุญศล ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย และ นางอาภรณ์ สาราคำ ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ถอนชื่อ แต่เมื่อทางพรรคเพื่อไทยรับทราบจึงขอให้ส.ส.ทั้ง 2 คน ทำหนังสือถอนการขอถอนชื่อดังกล่าว จากนั้นวันที่ 7 มกราคม ตนได้ส่งรายชื่อเพิ่มเติม แต่กลับพบว่าศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยไม่รับคำร้องโดยไม่รอหนังสือที่ตนทำเพิ่มเติม


 “ประธานสภาฯ ควรรู้อยู่แก่ใจ ว่าใครเป็นคนดีหรือไม่ดี กรณีที่เกิดขึ้นคนไม่เรียนกฎหมายก็รู้ว่าขาดคุณสมบัติ ผมสงสารประชาชน คนที่มีหน้าที่ควรทำหน้าที่อย่างเคร่งครัด แต่กลับทำอะไรเฉื่อยๆ ซึ่งไม่เป็นปัญหา ผมจะยอมเหนื่อย และทำอีก โดยยื่นเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพราะไม่ได้วินิจฉัยในเนื้อหา และผมพร้อมจะตรวจสอบ ส.ส.ทั้งสภาฯ ทั้ง 487 คน ผมเป็นถึงอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทำได้ และจะทำให้เป็นของขวัญตรุษจีนกับประชาชน” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุ


 

ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วได้ความว่า คำร้องดังกล่าวเป็นของพรรคเสรีรวมไทย และได้ขอความร่วมมือให้พรรคร่วมฝ่ายค้านร่วมลงชื่อ เพื่อให้ได้ลายมือชื่อ ส.ส.รไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ตามจำนวนที่รัฐธรรมนูญกำหนด พรรคจึงได้ขอให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคตรวจสอบคำร้อง


ระหว่างนั้นได้มีการนำเวียนเพื่อขอลายมือชื่อจาก ส.ส.ในระหว่างการประชุมสภา ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยได้ร่วมลงชื่อ จนมีรายชื่อครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ โดยยังไม่มีมติพรรคหรือหนังสือสั่งการใดๆ จากผู้บริหารของพรรค


ต่อมาทราบว่ามีการให้สัมภาษณ์ในทำนองจะดำเนินคดีกับส.ส. ที่ร่วมลงชื่อ ด้วยความสับสนดังกล่าวจึงมี ส.ส.จำนวนหนึ่งได้ขอถอนชื่อจากคำร้องดังกล่าว จนเป็นเหตุให้ศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้องดังที่ทราบ


“พรรคเพื่อไทยเห็นว่าคำร้องของพรรคเสรีรวมไทย ที่ให้วินิจฉัยสมาชิกภาพของนายสิระ นั้น มีข้อเท็จจริง และมีประเด็นสาระ ควรที่ศาลรัฐธรรมนูญจะได้วินิจฉัย”เลขาธิการพรรคเพื่อไทยระบุ

 

ข่าวที่เกียวข้อง:

"สิระ" เฮ ! ศาลรัฐธรรมนูญตีตกคำร้องตีความสถานะ ส.ส.