แอมเนสตี้ฯ ประณามทรัมป์ ไม่ใช่ผู้นำ แต่เป็นผู้ยุยงปลุกปั่น
องค์การนิรโทษกรรมสากล หรือ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศสหรัฐอเมริกา แถลงหลังกลุ่มหนุนประธานาธิบดี “ทรัมป์” บุกรัฐสภาจนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 4 รายแล้วในขณะนี้ว่า การปฏิเสธไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งและยุยงผู้สนับสนุนของเขา คือการกระพือไฟแห่งความโกลาหลและความรุนแรง สมควรที่จะต้องร่วมกันประณาม
นายบ๊อบ กู๊ดเฟลโลว รักษาการผู้อำนวยการบริหาร แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล สหรัฐอเมริกา กล่าวแถลงต่อกรณี การไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กระทั่งวานนี้ (6 ม.ค.) ได้นำไปสู่การชุมนุมประท้วงของผู้ที่สนับสนุนเขาในกรุงวอชิงตัน ดีซี และ การจลาจลในอาคารรัฐสภาของสหรัฐ ว่า ท่าทีดังกล่าวของปธน.ทรัมป์ กำลังนำไปสู่ภาวะเสี่ยงภัยต่อสิทธิมนุษยชน ความปลอดภัยของประชาชนและหลักนิติธรรม
รายละเอียดถ้อยแถลงของนายกู๊ดเฟลโลว มีดังนี้
“การที่ประธานาธิบดีทรัมป์ปฏิเสธ ไม่ยอมให้มีการเปลี่ยนถ่ายอำนาจอย่างสงบ ทำให้เกิดภาวะเสี่ยงภัยต่อสิทธิมนุษยชน ความปลอดภัยของประชาชน และหลักนิติธรรมในสหรัฐฯ การยอมรับความเห็นของกลุ่มขาวสุดโต่งและกลุ่มสุดโต่งอื่น ๆ ของประธานาธิบดี ยิ่งช่วยกระพือไฟแห่งความโกลาหลและความรุนแรง ดังที่เราเห็นกันในวันนี้ เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ ทุกคนต้องเคารพ คุ้มครอง และปฏิบัติให้เป็นผลซึ่งสิทธิมนุษยชน รวมทั้งสิทธิที่จะปลอดจากความรุนแรง การข่มขู่ และการเหยียดผิว
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล มุ่งทำงานให้เกิดโลกที่ผู้มีอำนาจทุกคนเคารพกฎหมาย ปฏิบัติตามพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชน และต้องรับผิดหากไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ในระดับโลกเราได้ประจักษ์ถึงความเสียหายร้ายแรงที่เกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นผู้เผยแพร่ข้อมูลเท็จเสียเอง และยุยงให้เกิดความรุนแรงทางการเมืองและการเหยียดผิว เพื่อรักษาอำนาจของตนเองเอาไว้ คนทั้งโลกจับตามองอยู่ เช่นเดียวกับผู้สนับสนุนและสมาชิกของเรากว่า 10 ล้านคน
เป็นจุดที่คนในสหรัฐฯ ต้องใคร่ครวญสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาประธานาธิบดีทรัมป์ยุยงให้ผู้สนับสนุนของเขาก่อความรุนแรงและความวุ่นวายมาตลอด มันไม่ใช่การทำหน้าที่ของผู้นำ แต่เป็นของผู้ยุยงปลุกปั่น เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกคนต้องประณามคำพูดของประธานาธิบดี”
ทั้งนี้ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล สหรัฐฯ ระบุว่า ได้ติดตามสถานการณ์ และเศร้าใจอย่างมากกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา จึงขอเรียกร้องให้ประธานาธิบดีทรัมป์หาทาง “ลด” ไม่ใช่ “เพิ่ม”บรรยากาศของความหวาดกลัว ความไม่แน่นอน และความโกลาหล องค์กรสิทธิมนุษยชนอย่างแอมเนสตี้ฯยังเรียกร้องให้ประธานาธิบดีทรัมป์และรัฐบาลสหรัฐ ประกันว่าจะสนับสนุนการเผยแพร่ข้อมูลที่น่าเชื่อถือและซื่อตรง ต่อต้านข้อมูลเท็จและบิดเบือน และทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ตามอำนาจหน้าที่ของตน เพื่อป้องกันและประณามการโจมตีทำร้ายและการข่มขู่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
| ไมค์ เพนซ์ยอมหักดิบกับปธน.ทรัมป์ ย้ำอเมริกาต้องยึดมั่นหลักรัฐธรรมนูญ ประชาชนเลือกโจ ไบเดน |
"ทวิตเตอร์" “เฟซบุ๊ก” บล็อคบัญชีประธานาธิบดีทรัมป์ หลังทวีตป่วนมวลชนลุกฮือบุกสภา