สำหรับการควบรวมเป็น NT นั้นจะเป็นบริษัทที่มีโครงสร้างพื้นฐานครบวงจรมากที่สุดมูลค่าสินทรัพย์มากถึง 300,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.เสาโทรคมนาคมกว่า 25,000 ต้นทั่้วประเทศ 2.เคเบิ้ลใต้น้ำระหว่างประเทศเชื่อมต่อไปยังทุกทวีป 3.ถือครองคลื่นความถี่หลักเพื่อให้บริการรวม 6 ย่านมีปริมาณ 600 เมกะเฮิรตซ์ 4.ท่อร้อยสายใต้ดินมีระยะทางรวม 4,600 กิโลเมตร 5.สายเคเบิ้ลใยแก้วนำแสง 4 ล้านคอร์กิโลเมตร 6.Data Center 13 แห่งทั่วประเทศ และ 7.ระบบโทรศัพท์ระหว่างประเทศที่เข้าถึงจากทุกประเทศในโลก
ทั้งนี้ในการควบรวมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการทำธุรกรรมกับคู่ค้า หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และลูกค้าเนื่องจาก NT จะรับโอนกิจการ สิทธิ หนี้ ความรับผิดชอบ และสินทรัพย์ของ แคทและทีโอที มาทั้งหมด โดย NT พร้อมที่จะดำเนินงานของ แคท และ ทีโอที อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการให้บริการลูกค้าเดิมของ แคท และ ทีโอที โดยทั้งสองหน่วยงานได้พิจารณาแนวทางการให้บริการในด้านต่าง ๆ ร่วมกันเพื่อจะอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้นตั้งแต่วันแรกของการควบรวม
ด้านนาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ NT กล่าวเพิ่มว่า ในวันจดทะเบียนและเริ่มดำเนินกิจการ NT มีศูนย์บริการลูกค้าทั่วประเทศ 536 แห่ง ซึ่งก็คือสำนักงานบริการลูกค้า, CAT Shop ศูนย์บริการลูกค้าของ แคท และ ทีโอที ทั้งหมด ในเบื้องต้นลูกค้าเดิมของ แคท และ ทีโอที สามารถติดต่อใช้บริการต่าง ๆ ได้จากศูนย์บริการลูกค้า NT ทุกแห่ง ซึ่งจะมีการระบบในการเชื่อมโยงและส่งต่องานระหว่างกัน นอกจากนี้ได้จัดทำศูนย์บริการลูกค้าต้นแบบจำนวน 12 แห่งที่จะสามารถให้บริการได้แบบเบ็ดเสร็จด้วยการวางระบบและจัดเจ้าหน้าที่ของทั้งสององค์กรให้ปฏิบัติงานร่วมกัน ทั้งนี้ ลูกค้ายังคงสามารถใช้ช่องทางการชำระค่าใช้บริการต่าง ๆ ที่มีอยู่เดิมได้ทั้งหมด”