ท่องเที่ยวไทย เครื่องกำลังติด

05 ธ.ค. 2563 | 06:00 น.

ท่องเที่ยวไทย เครื่องกำลังติด : บทบรรณาธิการ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3633 หน้า 6 ระหว่างวันที่  6-9 ธ.ค.2563

 

ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบไวรัสโควิด-19 หรือศบศ. ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้ไฟเขียวโคงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 ออกมา โดยจะเพิ่มวงเงินอีก 500 บาท ให้กับผู้ลงทะเบียนได้สิทธิ์ในรอบแรกไปแล้ว 10 ล้านสิทธิ์ และขยายเวลาการใช้ไปจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2564 และเพิ่มผู้ใช้สิทธิ์ใหม่อีกจำนวน 5 ล้านสิทธิ์ วงเงินสนับสนุน 3,500 บาท เปิดให้ลงทะเบียนในวันที่ 16 ธันวาคม 2563
 

รวมถึงการเพิ่มวงเงินให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอีกคนละ 500 บาท เป็นเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม-มีนาคม 2564
 

ทั้ง 2 ส่วนนี้ จะใช้เงินกู้ตามแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม กรอบวงเงิน 4 แสนล้านบาท รวม 4.35 หมื่นล้านบาท จากที่รอบแรกได้อนุมัติดำเนินการไปแล้ว 3 หมื่นล้านบาท   

 

ที่สำคัญไม่แพ้กันศบศ.ยังอัดมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวภายในประเทศ ในโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มผู้สูงอายุ หรือเที่ยวไทยวัยเก๋า ดึงผู้มีอายุ 55 ปีขึ้นไป จำนวน 1 ล้านคน เดินทางท่องเที่ยวผ่านบริษัทนำเที่ยว มีระยะเวลาการท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 3 วัน 2 คืน และเดินทางท่องเที่ยวได้เฉพาะวันธรรมดา มีราคาค่าใช้จ่ายต่อโปรแกรมไม่น้อยกว่า 12,500 บาทต่อคน รัฐบาลจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายผ่านบริษัทนำเที่ยวในลักษณะร่วมจ่ายคนละ 5,000 บาท
 

รวมทั้งปรับปรุงโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เพิ่มเป้าหมายจำนวนห้องพักจากเดิม 5 ล้านคืน เป็น 6 ล้านคืน โดยให้ใช้สิทธิจำนวนการจองห้องพักจากเดิมที่พักได้ไม่เกิน 10 คืนต่อ 1 สิทธิเพิ่มเป็น 15 คืนต่อ 1 สิทธิ และเพิ่มโรงแรมที่ไม่มีใบอนุญาตฯ แต่มีหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีและมีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ให้สามารถเข้าร่วมโครงการได้ โดยขยายระยะเวลาการใช้สิทธิโครงการถึง 30 เมษายน 2564
 

ย้อนกลับไปดูโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ที่รัฐบาลอนุมัติงบกระตุ้นการท่องเที่ยว วงเงิน 2.2 หมื่นล้านบาท ล่าสุดมีผู้ลงทะเบียนรวม 6.76 ล้านคน มูลค่าห้องพักที่จองทั้งหมด 10,961.3 ล้านบาท จำนวนโรงแรมที่มีการจองทั้งสิ้น 4,888 แห่ง ผู้ที่ได้รับคูปองอาหาร 863,162 ราย มียอดใช้จ่ายทั้งหมด 3,510.4 ล้านบาท และมีผู้เข้าใช้บริการโรงแรมที่พักแล้ว 1,417,269 ห้อง

 

สำหรับตั๋วเครื่องบิน มีผู้โดยสารที่ได้รับสิทธิแล้ว 216,866 สิทธิ มีมูลค่าบัตรโดยสารที่ได้รับสิทธิประมาณ 565.3 ล้านบาท ส่วนโรงแรมและที่พัก มีผู้ลงทะเบียนรวม 8,128 แห่ง ร้านอาหาร ลงทะเบียนรวม 65,429 ร้าน สถานที่ ท่องเที่ยว ลงทะเบียนรวม 1,959 แห่ง ร้านค้าโอทอป ลงทะเบียนรวม 1,314 แห่ง
 

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คาดการณ์ว่าในปีหน้าหากไทยสามารถควบคุมและดูแลการแพร่ระบาดในประเทศได้เป็นอย่างดี จะเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาได้ และคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาประมาณ 8 ล้านคน ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เศรษฐกิจไทยในปีหน้าขยายตัวกลับมาเป็นบวกที่ 4.-4.5% และในปี 2565 จะเพิ่มขึ้นเป็น 16 ล้านคน ในปี 2566 เพิ่มเป็น 32 ล้านคน และในปี 2567 เพิ่มเป็น 40 ล้านคน เช่นเดียวกับปี 2562
 

จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่กล่าวมา ดูเหมือนว่าภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งถือเป็นเครื่องยนต์หลักตัวหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ กำลังเริ่มติดแล้ว ก็หวังว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระยะ 2 ที่เริ่มก่อตัวทางภาคเหนือ จะไม่ขยายวงกว้าง และมาฉุดให้ภาวะการท่องเที่ยวดิ่งเหวลงอีกครั้งได้