อัดฉีดแล้ว 1.4 แสนล้าน ศก.เริ่มฟื้น จ้างงาน 4.3 แสนคน 

16 ต.ค. 2563 | 04:24 น.

ครม.ทยอยคลอดโคงการ ภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ล่าสุดไฟเขียว 1.4 แสนล้าน 76 โครงการ เกิดการจ้างงาน 4.32 แสนคน

การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจของไทยอย่างหนัก หลายสำนักได้ออกมาคาดการณ์ตัวเลขทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของปีนี้จะติดลบราว 7-8% ทำให้รัฐบาลต้องออกมามาตรการต่างๆ มาพยุงเศรษฐกิจ ผ่านแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม วงเงิน 4 แสนล้านบาท ภายใต้พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท

 

ถึงวันนี้การดำเนินงานดังกล่าว ถือว่ามีความคืบหน้าเป็นลำดับ หลังจากคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหรือสศช. ได้วิเคราะห์เบื้องต้น และนำเสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบโครงการภายใต้กรอบแนวคิดในการจัดทำโครงการ รอบที่ 1 ไปแล้ว วงเงินรวม 9.24 หมื่นล้านบาท จำนวน 186 โครงการ โดยมีเป้าหมายที่จะก่อให้เกิดการจ้างงานใหม่กว่า 410,415 ราย

 

เห็นได้จากปัจจุบันคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติเห็นชอบโครงการไปแล้ว 72 โครงการ วงเงินรวม 69,628.8 ล้านบาท ช่วยให้เกิดการจ้างงานใหม่กว่า 1.72 แสนคน ซึ่งหากไล่เรียงโครงการต่างๆ จะพบว่าเป็นโครงการของจังหวัด รอบแรก จำนวน 53 โครงการ วงเงิน 142.3 ล้านบาท ขณะที่โคงการขนาดใหญ่จะมีอยู่ 19 โครงการ อาทิ โครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” 

อัดฉีดแล้ว 1.4 แสนล้าน ศก.เริ่มฟื้น จ้างงาน 4.3 แสนคน 

โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย) โครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด  โครงการเราเที่ยวด้วยกัน โครงการพัฒนาตำบลแบบบูรณาการ และโครงการปรับโครงสร้างการผลิต การรวบรวม และการแปรรูปของสถาบันเกษตรกรรองรับผลผลิตทางการเกษตร เป็นต้น 

 

ทั้งนี้ ไม่รวมโคงการที่เสนอขอใช้เงินกู้ที่เสนอมาภายหลัง นอกเหนือจากรอบที่ 1 อีก 4 โครงการ วงเงิน 70,570.9ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการกระตุ้นการบริโภคได้แก่ โคงการคนละครึ่ง วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ วงเงิน 20,922.7 ล้านบาท และเป็นโครงการจ้างงาน ได้แก่  โครงการส่งเสริมการจ้างงานใหม่สำหรับผู้จบการศึกษาใหม่โดยภาครัฐและเอกชน วงเงิน 19,462 ล้านบาท ช่วยให้เกิดการจ้างงานได้ 2.6 แสนคน และโครงการฝึกอบรมเพื่อชะลอการว่างงานในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ วงเงิน 186.2 ล้านบาท 

 

เมื่อรวมทั้ง 2 ส่วนแล้ว คณะรัฐมนตรีได้มีการอนุมัติโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมไปแล้วจำนวน 76 โครงการ วงเงินกู้ราว 1.40 แสนล้านบาท ช่วยให้เกิดการจ้างงานใหม่กว่า 4.32 แสนคน  

ทั้งนี้ หลายฝ่ายเห็นว่า ภายใต้วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น รัฐบาลควรจะเร่งดำเนินการอนุมัติโครงการในรอบที่ 1 ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพราะจะทำให้เกิดเม็ดเงินกระจายลงสู่ท้องถิ่น ช่วยให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพได้อีกมาก เนื่องจากยังมีโครงการที่รอการอนุมัติถึง 110 โครงการ วงเงินกว่า 2.27 หมื่นล้านบาท ที่จะสามารถลงไปช่วยการสร้างงานได้อีกมาก

 

ต่อเรื่องดังกล่าวนี้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หลังเข้ารับตำแหน่ง ได้ทราบปัญหาแล้ว และจะไปเร่งพิจารณาโครงการที่ค้างไว้ รวมถึงการเร่งรัดเบิกจ่ายงบฟื้นฟูเศรษฐกิจเพื่อให้เม็ดเงินเข้าสู่ระบบโดยเร็ว จากปัจจุบันโครงการตามรอบที่ 1 อนุมัติได้กว่า 1 พันล้านบาทเท่านั้น

 

ขณะที่นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ชี้ให้เห็นว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ออกมานั้น เริ่มเห็นผลในการช่วยฟื้นเศรษฐกิจกลับมาได้บ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นโครงการคนละครึ่ง โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และเราเที่ยวด้วยกัน ทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไตรมาสที่ 4 ประมาณ 2-3 แสนล้านบาท จะทำให้จีดีพีในไตรมาส 4 บวกขึ้นมาได้ 1-3 % ส่งผลให้เศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 4 ที่คาดว่าจะติดลบ  7 ถึงติดลบ 8% เหลือเพียงติดลบ 4 ถึงติดลบ 5% เท่านั้น 

เห็นแนวโน้มการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจแล้ว ก็หวังว่าจะเป็นสัญญาณที่ดีต่อเนื่อง แต่ที่ห่วงมากที่สุด คงหนีไม่พ้นสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้น หากมีความรุนแรง และยืดเยื้อยาวนาน จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะมาซ้ำเติมวิกฤตเศรษฐกิจได้อีก

นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 หน้า 8 ฉบับที่ 3,619 วันที่ 18 - 21 ตุลาคม พ.ศ. 2563