วันที่ 15 ตุลาคม 2563 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงสรุปสถานการณ์ผลการปฏิบัติการเข้าควบคุมตัวแกนนำและผู้ชุมนุมคณะราษฎรในช่วงเช้ามืดวันนี้ พร้อมเตือนผู้ทึ่จะมาชุมนุมบริเวณสี่แยกราชประสงค์ตามที่แกนนำได้ชักชวนในเวลา 17.00 น.ว่าเป็นการกระทำฝ่าฝืนกฎหมาย โดยเฉพาะเมื่อมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในเขตกรุงเทพมหานคร (กทม.) และขอให้ประชาชนที่ใช้เส้นทางเลี่ยงเส้นทางดังกล่าวตั้งแต่เวลา 16.00 น. ถึง 22.00 น.ของวันนี้
"เราพร้อมดูแลความเรียบร้อยบ่ายวันนี้ กำชับเจ้าหน้าที่ดูแลการจราจร รักษาความปลอดภัย เมื่อรัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว อะไรที่เป็นข้อห้ามถือว่าเป็นการขัดขืนคำสั่ง"พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว
ขณะนี้รัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตพื้นที่ กทม.แล้วตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา และได้ออกข้อกำหนด กฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงข้อห้ามที่ไม่สามารถปฏิบัติได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการไม่ให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป หรือกระทำการใดๆ อันเป็นการยุยง เพื่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยขึ้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ให้อำนาจเจ้าพนักงาน "จับกุม-เรียกตัว-ตรวจค้น-ยึดอายัด"
เกาะติด "ม็อบ 14 ตุลา" ชุมนุม คณะราษฎร 2563 ได้ที่นี่
นายกฯ "ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ" ในพื้นที่กทม.
นายกฯ ตั้ง "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" เป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน
ฉะนั้น การชักชวนให้มาชุมนุมบริเวณราชประสงค์ในช่วงบ่ายหรือช่วงเย็นนี้มีความชัดเจนว่าเป็นความผิด และผู้ที่มาร่วมชุมนุมถือว่าเป็นผู้ที่ทำความผิดด้วย จะอ้างว่าไม่รู้กฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง ประกาศ คงไม่ได้ เพราะมีการแจ้งเตือนสร้างความรับรู้ตั้งแต่มีการประกาศออกมา จึงอยากฝากว่าเมื่อมีการดำเนินการหรือดำเนินคดีไปแล้วก็ต้องรับในส่วนที่ท่านได้ฝ่าฝืนกฎหมาย
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เตรียมวางกำลังเพื่อเข้าดูแลสถานการณ์รอบแยกราชประสงค์ตั้งแต่เช้าวันนี้ แบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ สกายวอร์คทั้งบนสถานีรถไฟฟ้าจนถึงทางเดินเชื่อม, แยกราชประสงค์ฝั่งขวา ตั้งแต่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี จนถึงอัมรินทร์พลาซ่า และฝั่งซ้ายไปจนถึงศูนย์การค้าพารากอน
พ.ต.อ.กฤษณะ เปิดเผยอีกว่า ปฏิบัติการในช่วงเช้ามืดวันนี้ตั้งแต่เวลา 04.00 น.จนถึงปัจจุบัน เจ้าหน้าทีได้เข้ากระชับพื้นที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล โดยควบคุมตัวแกนนำและผู้ชุมนุมได้ 20 คน ในจำนวนนี้ยืนยันว่าเป็นแกนนำ 3 ราย ประกอบด้วย นายประสิทธิ์ ครุธาโรจน์, นายอานนท์ นำภา และ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน ในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และจัดให้มีการชุมนุม ซึ่งทั้งหมดถูกคุมตัวไปยัง กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 จังหวัดปทุมธานี
ส่วนเส้นทางจราจรโดยรอบ พื้นที่ทำเนียบ เช้าวันนี้ มีการเปิดเส้นทางตามปกติ หลังคุมตัวผู้ชุมนุมและแกนนำ โดยยังเหลือเพียงเต็นท์ประกอบอาหาร และรถยนต์ คาดว่าก่อนเที่ยงจะเคลื่อนย้ายออกหมด
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า เมื่อ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง โดย ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการกับผู้ที่ฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกตามมาตรา 9 ประกอบกับมาตรา 11 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประกาศให้ผู้ที่ชุมนุมบริเวณรอบทำเนียบรัฐบาลยุติการกระทำฝ่าฝืนข้อกำหนดดังกล่าว แต่มีผู้ชุมนุมบางส่วนขัดขืนไม่ปฏิบัติตาม เจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการควบคุมตัวผู้ฝ่าฝืนถือว่าเป็นการกระทำความผิดซึ่งหน้า
สำหรับการควบคุมตัวผู้ที่ถูกจับกุมทั้ง 20 กว่ารายนั้นจะดำเนินการตามระเบียบ กฎหมาย ที่เกี่ยวข้องในการสอบสวนควบคุมตัวและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ขอประชาสัมพันธ์ไปถึงกลุ่มผู้ชุมนุม รวมถึงผู้ที่ชักชวนผู้อื่นให้มาชุมนุม ไม่ว่าจะในช่องทางใดก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะเป็นช่องทางโซเชียลมีเดีย หรือการโฆษณาประกาศ ชักชวน ใดๆ