การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศ (รฟม.) กำหนดเกณฑ์ประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนเทียน-มีนบุรี มูลค่า 1.4 แสนล้านระยะทาง 35.9กิโลเมตร ต้องนำเทคนิคพิจารณาร่วมกับราคา และขยับการยื่นซองร่วมลงทุนโครงการรัฐจากวันที่ 23 กันยายน เป็นวันที่ 6 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งการปรับปรุงหลักเกณฑ์ครั้งนี้ เป็นไปตามมติของคณะกรรมการตามมาตรา 36 แห่งพ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนพ.ศ.2562 ใช้เกณฑ์พิจารณาข้อเสนอซองที่ 2 ด้านเทคนิค (สัดส่วน 30 คะแนน) และข้อเสนอซองที่ 3 ด้านการเงิน (สัดส่วน 70 คะแนน) มาพิจารณารวมกัน
ล่าสุดได้ออกเอกสารแจ้งเพิ่มเติมให้เอกชนผู้ซื้อเอกสารประกวดราคาทั้ง 10 ราย รับทราบหลักเกณฑ์ในการพิจารณาคัดเลือกที่ปรับใหม่ ขณะบีทีเอสกรุ๊ป หนึ่งในผู้ยื่นประมูลได้ มอบทนาย ความยื่นฟ้องศาลปกครองเพื่อหวังให้ศาลสั่งคุ้มครองชั่วคราว และยุติการประมูลเกณฑ์ใหม่หลังมองว่าไม่เป็นธรรมส่อไปในทางทุจริตและเอื้อต่อเอกชนรายใดรายหนึ่ง ด้านศาลปกครอง รับทันควัน เรียก รฟม.เข้าชี้แจง
ทั้งนี้ คำชี้แจงของรฟม.ระบุชัดว่าสาเหตุที่ต้องปรับปรุงหลักเกณฑ์การพิจารณาใหม่ เพื่อให้ตรงกับประกาศคณะกรรมการนโยบายการลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) ที่กำหนดรายละเอียดหลักเกณฑ์วิธีดำเนินการต่างๆ ในโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน ซึ่งจากที่ได้พิจารณาและตรวจสอบกับหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการ PPP ถึงหลักเกณฑ์การให้คะแนนซองข้อเสนอทางเทคนิครวมกับราคา แล้ว รฟม.ยืนยันว่า การพิจารณา โดยนำข้อเสนอด้านเทคนิคและราคาให้คะแนนประกอบการคัดเลือกจะเป็นประโยชน์กับโครงการมากที่สุดเนื่องจากรถไฟฟ้า สายสีส้มเป็นโครงการขนาดใหญ่โดยเฉพาะช่วงตะวันตกต้องขุดเจาะเป็นอุโมงค์ตลอดสายผ่านโบราณวัตถุโบราณสถานวัดวัง บริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ ลอดแม่นํ้าเจ้าพระยาตลอดจน ชุมชนใหญ่ จำเป็นต้อง ได้เอกชนที่มีความชำนาญสูง หากเอกชนรายใด ต้องการได้งาน ต้อง นำเทคนิคชั้นสูงที่ว่ามาสู้กัน
อย่างไรก็ตามการซื้อซอง ประมูลสายสีส้ม เป็นที่ทราบกันดีว่า คู่แข่งหลักในประเทศไทย มีเพียงเอกชน 2 รายเท่านั้นที่ให้บริการเดินระบบรถไฟฟ้า ได้แก่ บีทีเอสกรุ๊ป ผู้รับสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ของกรุงเทพมหานคร และบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ผู้รับสัมปทานเดินรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สายสีนํ้าเงินของรฟม.ซึ่งมองว่า BEM มีความชำนาญมีประสบ การณ์งานอุโมงค์ใต้ดิน มาก่อน ขณะเดียวกันยังมี บมจ. ช.การช่าง เป็นบริษัทแม่ เบอร์หนึ่งด้านการขุดเจาะอุโมงค์ มองว่า กลุ่มบริษัทนี้มีความมั่นใจสูง ที่จะคว้างาน หลังจากประกาศความมั่นใจ มาก่อนหน้านี้
ทั้งนี้แหล่งข่าวจาก BEM ยื่นยันว่าบริษัทเตรียมความพร้อม เพื่อยื่นซอง วันที่6 พฤศจิกายน โดยมั่นใจว่า จะคว้าประมูลสายสีส้ม ซึ่งประกอบด้วยงานโยธาช่วงสายสีส้มตะวันตก (ศูนย์วัฒนธรรมฯ-บางขุนนนท์) และ ระบบเดินรถ 30ปี ซึ่งสายสีส้ม เป็นเส้นทางใต้ดินเชื่อมต่อกับ MRT ใต้ดินสีนํ้าเงิน บริเวณศูนย์วัฒนธรรม และ อีกหลายจุดสามารถส่งต่อ การเดินทางระหว่างกันได้สะดวก
นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บีอีเอ็มระบุว่าบริษัทมีความพร้อมประมูลงานโยธาสายสีส้มตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์วงเงิน กว่า 9 หมื่นล้านบาท และระบบเดินรถไฟฟ้า ตลอดสาย 30 ปี รูปแบบพีพีพี เน็ตคอสต์ โดยบริษัทหาเงินกู้ดอกเบี้ยตํ่าจากธนาคารที่เจรจาไว้แล้ว ทั้งนี้หากชนะประมูล ต้องลงทุนก่อนและรัฐจ่ายคืนภายหลัง ซึ่ง BEM มั่นใจว่าน่าจะคว้าสัมปทานโครงการดังกล่าว
อ่านเพิ่มเติม : คอลัมน์ข่าวห้ามเขียน : หน้า 20
ข้าวหน้า1 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3612
ข่าวที่เกี่ยวข้อง