กกร.เล็งทบทวนคาดการณ์จีดีพีหลังไตรมาส3

09 ก.ย. 2563 | 08:12 น.

กกร.เล็งทบทวนคาดการณ์จีดีพีจากเดิมหดตัว 9.0% ถึง -7.0% เหตุภาพรวมเศรษฐกิจยังอ่อนแอ-ห่วงตลาดแรงงานหลังสิ้นไตรมาสสองคนว่างงาน 2.5ล้านคน

นายผยง  ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทยและประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ว่า ที่ประชุม กกร. มองว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจน่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในไตรมาสที่ 2 สำหรับทั้งปี 2563 กกร. ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยอาจหดตัวในกรอบ -9.0% ถึง -7.0% โดยยังคงประมาณการการส่งออกในปี 2563 ว่าอาจจะหดตัวในกรอบ -12.0% ถึง -10.0% ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปคาดว่าอยู่ในกรอบ -1.5% ถึง -1.0%  

 

อย่างไรก็ตาม หลังไตรมาสที่3 กกร.เตรียมจะทบทวนตัวเลขประมาณการจีดีพี ปี 2563 อีกครั้ง ขณะที่เครื่องชี้วัดเศรษฐกิจไทยในเดือนกรกฎาคม 2563 หดตัวน้อยลง ต่อเนื่องจากเดือนมิถุนายน ภาคครัวเรือนมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นหลังคลายล็อคแต่โดยรวมเศรษฐกิจยังอ่อนแออยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นการส่งออก การท่องเที่ยว และการลงทุน

 

นอกจากนี้ สถานการณ์ตลาดแรงงานน่าเป็นห่วง โดยมีผู้ว่างงานทั้งหมดแล้วกว่า 7 แสนคน ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 และยังมีผู้มีงานประจำแต่ปัจจุบันไม่ได้ทำงานอีกกว่า 2.5 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นถึง 2 ล้านคนเมื่อเทียบกับ ณ สิ้นปี 2562 
 

"ช่วงที่เหลือของปี 2563 เศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่อง โดยต้องเผชิญกับเศรษฐกิจโลกที่เริ่มเสีย momentum การฟื้นตัว หลังจากที่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกสองในหลายประเทศที่เป็นคู่ค้าสำคัญ เช่น กลุ่มประเทศสหภาพยุโรป ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เป็นตัน ทำให้แรงขับเคลื่อนของการฟื้นตัวเหลือแค่เศรษฐกิจสหรัฐฯ และจีน เป็นหลัก จึงต้องติดตามว่าทั้งสองประเทศนี้จะสามารถควบคุมสถานการณ์ไม่ให้มีการระบาดรุนแรงได้มากน้อยแค่ไหน ส่วนการฟื้นตัวของภาคการส่งออกและการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติยังมีอุปสรรคอยู่มาก"

กกร.เล็งทบทวนคาดการณ์จีดีพีหลังไตรมาส3

นายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หลังคลายล็อค กิจกรรมทางเศรษฐกิจดีขึ้น เห็นได้จากยอดค้าปลีก  หรือ เครื่องจักรด้านการเกษตร  บ้านจัดสรรแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์มียอดขายดีขึ้น ยกเว้น คอนโดมิเนียม 


ส่วนประเด็นการปฏิรูปกฎหมาย กกร.ได้ใช้เงินงบประมาณ10ล้านบาท ในการปรับปรุงกฎหมาย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และลดขั้นตอนการทำงานของภาครัฐ เพื่อให้เกิดการอำนวยความสะดวกให้มากขึ้น โดยนำผลการศึกษาของ ป.ย.ป. และ TDRI นำไปปฏิบัติในการปรับปรุงกฎหมายให้เกิดขึ้นได้จริง และจะกำหนดเป้าหมายในการติดตามเรื่องดังกล่าวกับทางภาครัฐ โดยจะนำผลการศึกษาที่ทำงานร่วมกันผ่านหลายคณะทำงาน เพื่อนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีต่อไป
 

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)กล่าวว่า กกร.จะหารือกระทรวงการคลังและธปท.ในการการค้ำประกันเงินกู้ของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม( บสย. ) โดยเพิ่ม Max Claim จาก 30% ให้มากขึ้นเป็น 50%เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้สามารถเข้าถึงวงเงินกู้ Soft loan 5 แสนล้านของ ธปท. มากขึ้น


รวมถึงข้อเรียกร้องจากผู้ประกอบการที่รับโครงการจากภาครัฐและได้ส่งมอบโครงการแล้วแต่ยังไม่สามารถโอนสิทธินั้น  กกร.จะ เสนอให้หน่วยงานรัฐเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินของโครงการของภาครัฐภายใน 30 วัน  และให้หน่วยงานภาครัฐทุกประเภทสามารถโอนสิทธิ์การรับเงินให้กับธนาคารได้ด้วย


ส่วนโครงการศึกษาการขุดคลองไทยจากผลการพิจารณาศึกษาการขุดคลองไทย และการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ ทาง กกร. จะศึกษารายละเอียดร่วมกันเพื่อหาจุดยืนและนำเสนอภาครัฐต่อไป