สิงคโปร์ทุ่มกว่า 1,000 ล้าน ต่อลมหายใจเที่ยวในประเทศ
สิงคโปร์ทุ่มกว่า 1,000 ล้าน ต่อลมหายใจ-กระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศ หลังโควิดกระทบหนัก นักท่องเที่ยวต่างชาติหายไปเกือบ 100% ยอดเดือนมิถุนายนล่าสุดเหลือมีแค่ 2,200 คน
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ(สคต.) ณ กรุงสิงคโปร์ รายงานอ้างอิงข้อมูลสื่อต่างประเทศว่า คณะกรรมการการท่องเที่ยวสิงคโปร์ (Singapore Tourism Board : STB) ร่วมกับ Enterprise Singapore และ Sentosa Development Singapore (SDC) ได้เปิดตัวโครงการ Singapoliday เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศของชาวสิงคโปร์และผู้ที่อาศัยอยู่ในสิงคโปร์ในช่วงวันหยุดไปพร้อม ๆ กับการค้นพบมุมมองใหม่จากการท่องเที่ยวในประเทศ โดยทุ่มงบประมาณ 45 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์(กว่า 1.01 พันล้านบาท คำนวณที่ 22.65 บาทต่อดอลลาร์)ในการทำการตลาดเพื่อสนับสนุนธุรกิจในประเทศตลอดระยะเวลา 9 เดือน
โครงการดังกล่าวชูแนวคิดการสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ที่คุ้มค่าผ่านกิจกรรมส่งเสริมการขายและข้อเสนอต่างๆ สำหรับชาวสิงคโปร์และผู้ที่อาศัยอยู่ในสิงคโปร์ ทั้งนี้หน่วยงานต่าง ๆ จะร่วมมือกับนักชิมอาหาร ช่างภาพ กลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติ และกลุ่มอนุรักษ์สถานที่เก่าแก่(heritage) เพื่อให้ชาวสิงคโปร์ไปสัมผัสและค้นพบเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ (hidden gems) ในสิงคโปร์ นอกจากนี้ยังมีการเปิดแผนการเดินทางตามย่านต่าง ๆ ในสิงคโปร์ เช่น Little India เกาะ Sentosa ย่าน Chinatown และถนน Orchard เป็นต้นเพื่อให้นักท่องเที่ยวในประเทศได้สำรวจส่วนต่าง ๆ ของประเทศอีกด้วย
นาย Chan Chun Sing รัฐมนตรีกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์ กล่าวว่า สิงคโปร์มีตลาดท่องเที่ยวในประเทศที่สำคัญและแปลกใหม่ที่น่าค้นหา รัฐบาลสนับสนุนให้ชาวสิงคโปร์ที่เคยเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศแต่เปลี่ยนมาเป็นท่องเที่ยวในประเทศแทน ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในสิงคโปร์ได้อย่างมีนัยสำคัญ
ความคิดริเริ่มโครงการนี้เกิดขึ้นหลังจากตัวเลขนักท่องเที่ยวลดลงไปอย่างมาก โดยในเดือนพฤษภาคม 2563 จำนวนผู้มาเยือนสิงคโปร์มีเพียง 880 คน คิดเป็นจำนวนที่ลดลงไปถึง 99.9% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปี 2562
ภาคธุรกิจในประเทศกว่า 40 แห่งได้เข้าร่วมโครงการนี้ โดยมีการจัดรายการส่งเสริมการขาย 80 รายการสำหรับสถานที่ท่องเที่ยว ทัวร์ และการเข้าพักในโรงแรมต่าง ๆ และบางรายการส่งเสริมการขายนี้สามารถนำไปใช้ในวันชาติสิงคโปร์ครบรอบปีที่ 55 (ในวันที่ 9 สิงหาคม)เพื่อใช้เป็นส่วนลดต่าง ๆ ได้ด้วย
Ms.Lynett Pang ผู้ช่วยประธานบริหารกลุ่มการตลาดของ STB กล่าวว่า โครงการดังกล่าวได้รับการออกแบบจากงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า ชาวสิงคโปร์มีความยินดีที่จะออกไปหา “ประสบการณ์แบบผู้รู้จริง (Authentic insider experiences)” เพื่อที่จะเชื่อมต่อกับเพื่อนและครอบครัวของพวกเขา และจากการประมาณการของสหประชาชาติ ชาวสิงคโปร์ใช้เงินมากกว่า 34,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในการเดินทางไปต่างประเทศ อย่างไรก็ดีสืบเนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ก่อให้เกิดความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและข้อพิจารณาทางด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยที่เพิ่มมากขึ้น STB หวังว่าชาวสิงคโปร์จะแบ่งการใช้จ่ายบางส่วนสำหรับธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศ
นาย Keith Tan ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ STB กล่าวว่า โครงการนี้เป็นความพยายามครั้งสำคัญในการผลักดันตลาดในประเทศ อย่างไรก็ดี STB ไม่ได้คาดหวังว่าการบริโภคภายในประเทศจะสามารถทดแทนรายรับจากชาวต่างชาติที่เดินทางมายังสิงคโปร์ได้ ซึ่งในปี 2562 คิดเป็นมูลค่ากว่า 27,700 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ แต่ STB คาดหวังว่า โครงการนี้จะช่วยซื้อเวลาให้กับธุรกิจในประเทศในการลดต้นทุน เพิ่มกระแสเงินสด หรือมีรายได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ทั้งนี้รัฐบาลสิงคโปร์ได้ให้การสนับสนุนเป็นจำนวน 100,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์แก่ชาวสิงคโปร์ คนงานและธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดย STBได้เข้าไปช่วยธุรกิจท่องเที่ยวกว่า 7,000 แห่ง เพื่อให้ยังมีงานและสามารถว่าจ้างต่อได้ อีกทั้งยังมีการสนับสนุนค่าจ้างแก่ไกด์นำเที่ยวกว่า 1,600 คน ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพอิสระ จนถึงขณะนี้การว่างงานในภาคธุรกิจท่องเที่ยวยังอยู่ในระดับต่ำมาก แต่คาดว่าจะมีการว่างงานมากขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า จากการสนับสนุนจากรัฐบาลในส่วนค่าเช่า ภาษีเริ่มลดลง STB เริ่มมีการพิจารณาการขายให้กับนักท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ หรือนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักผ่อนภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวด โดย STB กำลังหารือกับรัฐบาลขยายการจัดการข้อตกลง Green Lane ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการกับมาเลเซียและจีนเพื่อเป็นการรองรับนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น สำหรับการเดินทางเชิงธุรกิจแต่การเดินทางท่องเที่ยวยังอยู่ภายใต้การทดสอบ
สำหรับมูลค่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสิงคโปร์คิดเป็น 4% ของ GDP ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากโควิด-19 และเป็นภาวะถดถอยที่เลวร้ายที่สุดของสิงคโปร์ โดยยอดค้าปลีกลดลงมากกว่า 50% ในเดือนพฤษภาคมเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปี 2562 โดยเฉพาะร้านค้าที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว เช่น ย่านถนนออชาร์ด ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนสิงคโปร์ในเดือนมิถุนายน 2563 มีเพียง 2,200 คน ลดลง 1.6 ล้านคนเมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2562
หลังจากมาตรการ Circuit Breaker สิ้นสุดลงในวันที่ 2 มิถุนายน 2563 สถานที่ท่องเที่ยวและโรงแรมต่างกลับมาเปิดให้บริการ ทั้งนี้จนถึงวันที่ 21 กรกฎาคม 2563 มีโรงแรมประมาณ 80 แห่งได้รับการอนุมัติให้เปิดดำเนินการสำหรับ Staycations แล้ว โดยกว่า 50% ของจำนวนห้องพัก 67,000 ห้องในสิงคโปร์ได้ถูกใช้ภายใต้วัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 การเปิดโรงแรมเพื่อ Staycations จะต้องมีความสมดุลกัน หากกรณีการติดเชื้อมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น จึงไม่ใช่ทุกโรงแรมที่สามารถเปิดได้ เพราะสิงคโปร์ต้องเตรียมรับมือให้พร้อมหากมีการระบาดระลอกสองจากการเริ่มเปิดเมืองในเฟสสอง ถึงแม้ว่าในขณะนี้การติดเชื้อในชุมชนยังอยู่ระดับต่ำ การเริ่มเปิดจะดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่เพียงแต่โครงการ SingapoRediscovers แต่รวมถึงภาพรวมทางเศรษฐกิจที่ทุกหน่วยงานของรัฐต่างบังคับใช้มาตรการรักษาระยะห่างอย่างเคร่งครัด