ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ได้ลงนามใน คำสั่งบริหาร (Executive Orders) 4 ฉบับเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (24 ก.ค.) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อ ปรับลดราคายาตามใบสั่งแพทย์ให้กับชาวอเมริกัน โดยหวังที่จะได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนใน การเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่กำลังจะมีขึ้นในเดือน พ.ย.นี้ ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับความล้มเหลวของเขาในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19
ประธานาธิบดีทรัมป์เปิดเผยว่า คำสั่งฉบับหนึ่งนั้นจะอนุญาตให้มีการนำเข้ายาตามใบสั่งแพทย์ซึ่งมีราคาถูกจากประเทศต่าง ๆ อาทิ แคนาดา ขณะที่คำสั่งอีกฉบับหนึ่งกำหนดให้บริษัทผลิตยาทำการปรับลดราคายาลง ขณะที่ในปัจจุบันพ่อค้าคนกลางเป็นผู้กำหนดราคาขายยาให้กับผู้ป่วย
ผู้นำสหรัฐระบุด้วยว่า เขายังได้ออกคำสั่งให้ลดราคาอินซูลินลงด้วย และยังได้ลงนามในคำสั่งที่จะกำหนดให้ “เมดิแคร์” (Medicare) ซึ่งเป็นโครงการประกันสุขภาพของรัฐบาลกลางสหรัฐ จัดซื้อยาในราคาเดียวกับที่ประเทศอื่น ๆ จ่าย ซึ่งคำสั่งนี้อาจจะไม่มีการบังคับใช้ หากการเจรจากับบริษัทยาประสบผลสำเร็จ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
วิกฤติประท้วงทุบคะแนนนิยม “ทรัมป์” จ่อพ่ายเลือกตั้ง
“ทรัมป์”ไปต่อ-หลุดเก้าอี้ผู้นำมะกัน ผลต่อไทย?
ด้านผู้บริหารของบริษัทยาชั้นนำของสหรัฐได้เรียกร้องให้มีการจัดประชุมเพื่อหารือกันว่า พวกเขาจะสามารถปรับลดราคายาลงได้อย่างไร
"เราจะรอดูการหารือเหล่านั้น และเราเตรียมพร้อมที่จะดำเนินการต่อไป" ซีมา เวอร์มา หัวหน้าโครงการ Medicare กล่าว
ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าวของประธานาธิบดีทรัมป์ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในทันทีจากอุตสาหกรรมเวชภัณฑ์ โดยสมาคมวิจัยและผู้ผลิตเวชภัณฑ์ของอเมริการะบุในแถลงการณ์ว่า ความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ของประธานาธิบดีเป็นการกระทำโดยประมาท ซึ่งจะขัดขวางขีดความสามารถของบริษัทยาอเมริกันในการรับมือกับโรคระบาดในปัจจุบัน รวมถึงโรคที่อาจจะต้องเผชิญในอนาคตด้วย
ด้านนักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีทแสดงความเห็นว่า พวกเขาไม่แน่ใจว่าคำสั่งดังกล่าวของประธานาธิบดีทรัมป์จะมีผลกระทบอย่างมากกับบริษัทยาหรือไม่ และระบุว่า อาจเป็นไปได้ยากที่จะบังคับใช้คำสั่งดังกล่าวในทางปฏิบัติ
ข้อมูลอ้างอิง
https://www.foxbusiness.com/healthcare/trump-four-executive-orders-drug-prices