บราซิล (ซินหัว ) รายงานว่า เมื่อวันพุธ (22 ก.ค.) สำนักประธานาธิบดีของบราซิล เปิดเผยว่าประธานาธิบดี ฌาอีร์ โบลโซนารู มีผลตรวจโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เป็นบวกครั้งที่ 3 ซึ่งหมายความว่าเขาต้องกักตัวแยกต่อไป
หลัง "โบลโซนารู "เข้ารับการตรวจเชื้อเมื่อวันอังคาร (21 ก.ค.)และพบว่าผลเป็นบวกครั้งที่ 3 สำนักประธานาธิบดี ได้เผยแพร่แถลงการณ์ระบุว่าประธานาธิบดียังคงมีสุขภาพดี
แถลงการณ์ระบุว่า "ประธานาธิบดี ฌาอีร์ โบลโซนารู ยังมีสุขภาพแข็งแรง และอยู่ในความดูแลของคณะแพทย์ประจำตัวประธานาธิบดี โดยโบลโซนารูเข้ารับการตรวจเชื้อเมื่อวาน (21 ก.ค.) และมีผลเป็นบวก"
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 7 ก.ค. โบลโซนารู ประกาศว่าเขามีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวกครั้งแรก หลังมีไข้และรู้สึกไม่สบาย จากนั้นเขาจึงทำงานอยู่แต่ในที่พักและไม่เข้าร่วมกิกรรมสาธารณะใด ก่อนจะมีผลตรวจเชื้อเป็นบวกครั้งที่ 2 เมื่อสัปดาห์ก่อน
ปัจจุบันโบลโซนารูอายุ 65 ปี ตามข้อมูลด้านภูมิประชากรศาสตร์แล้ว ประธานาธิบดีเข้าข่ายเสี่ยงมีอาการป่วยแทรกซ้อน
สำนักข่าวซินหัว ยังรายงานว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในบราซิล ได้เพิ่มเป็นจำนวนถึง 67,860 รายภายใน 24 ชั่วโมง ส่งให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อทั้งหมดเมื่อวันที่ 22 ก.ค. 63 อยู่ที่ 2,227,514 ราย
กระทรวงสาธารณสุขบราชิลระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นใน 1 วันทำลายสถิติก่อนหน้าในวันที่ 16 มิ.ย. ซึ่งมีผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 45,241 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ของบราซิลเพิ่มขึ้นเป็น 82,771 ราย หลังมีผู้ป่วย 1,284 รายเสียชีวิตในช่วงเวลาเดียวกัน
ทั้งนี้บราซิลเป็นประเทศที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 เป็นอันดับสองของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา ทั้งด้านจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิต
รัฐเซาเปาลู ทางตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดของบราซิล เป็นศูนย์กลางการระบาดของโรค